Bitcoin ร่วงแตะ 99,000 ดอลลาร์ ผวาสหรัฐโจมตีนิวเคลียร์อิหร่าน

ซีเอ็นบีซีรายงานว่าราคา “บิตคอยน์” (Bitcoin) ปรับตัวลดลงกว่า 4% ไปแตะที่ระดับต่ำกว่าระดับ 99,000 ดอลลาร์ในช่วงกลางดึกของวานนี้ (22 มิ.ย.) เป็นเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลาง หลังจากที่สหรัฐโจมตีฐานนิวเคลียร์อิหร่านในวันอาทิตย์และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อทำให้เกิดการเทขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างรุนแรง

ขณะเดียวกัน ราคาของเหรียญอีเธอร์ (Ethereum) ร่วงลงไปมากกว่า 10% เลยทีเดียว รวมทั้งราคาของ Solana, XRP  และ Dogecoin ก็ตกลงอย่างหนักเช่นกัน ส่งผลให้มูลค่าโดยรวมของสกุลเงินดิจิทัลลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์แรกที่ตอบสนองต่อความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น 

จากนั้น ราคา Bitcoin  กลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 101,000 ดอลลาร์ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และ Ether  ก็กลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 2,200 ดอลลาร์

สงครามกดดัน ‘สินทรัพย์เสี่ยง’

การเทขายสินทรัพย์ในตลาดครั้งนี้มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ความตกใจจากสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ และ ความกังวลเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐ

มีรายงานว่าอิหร่านขู่จะปิด ช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญที่ใช้ขนส่งน้ำมันมากถึง 20% ของน้ำมันทั่วโลก ถ้าช่องแคบนี้ถูกปิดทั้งหมด JPMorgan เตือนว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งสูงถึง 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเลยทีเดียว

บริษัทวิจัยเศรษฐกิจชื่อดังแห่งหนึ่งชี้ว่า การที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขนาดนั้น อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกากลับไปสูงถึง 5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เราไม่เห็นมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2566 เลยทีเดียว ในช่วงนั้นธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

สถานการณ์แบบนี้ทำให้บรรดาเทรดเดอร์ ต้องกลับมาประเมินแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยใหม่อีกครั้ง และเริ่มถอนเงินลงทุนออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างสกุลเงินดิจิทัล