ลุงโฉลก เปิดเทคนิคซื้อ Bitcoin ยังไงไม่ให้เจ็บซ้ำ? แยกบัญชีลงทุนให้ชัด พร้อม Money Management แบบแม่นยำ

ลุงโฉลก เปิดเทคนิคซื้อ Bitcoin ยังไงไม่ให้เจ็บซ้ำ? แยกบัญชีลงทุนให้ชัด พร้อม Money Management แบบแม่นยำ

ลุงโฉลก เปิดเทคนิคซื้อ Bitcoin ยังไงไม่ให้เจ็บซ้ำ แนะแยกบัญชีลงทุนให้ชัด ระยะยาว ระยะกลาง และระยะสั้น พร้อม Money Management แบบแม่นยำเป็นหัวใจในการอยู่รอดในโลกการลงทุนยุคใหม่

ราคา Bitcoin ยังคงผันผวนตามเศรษฐกิจ แม้ช่วงที่ผ่านมาพุ่งแตะทำจุดสูงสุดประวัติศาสตร์กว่า 111,000 ดอลลาร์ ก่อนปรับตัวลงมาอยู่ในกรอบ 100,000–105,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นการปรับฐานหลังจากพุ่งแรงเกินไป ขณะที่กูรู อย่าง "ลุงโฉลก" Bitcoin ไม่ใช่แค่ทรัพย์สินดิจิทัล หรือเครื่องมือเก็งกำไร แต่มันคือเงินของจริงในยุคที่สกุลเงินหลักของโลกกำลังเดินหน้าสู่จุดศูนย์ และทุกคนควรมี Bitcoin ในพอร์ตการลงทุน ตามสัดส่วนความรู้ความเข้าใจของตัวเอง และไม่ควรมองข้าม Mindset กับ Money Management ซึ่งเป็นหัวใจในการอยู่รอดในโลกการลงทุนยุคใหม่

โฉลก สัมพันธารักษ์ ผู้ก่อตั้งชมรม cdcchalok.com ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Technical Analysis ได้เล่าให้ฟังว่า Bitcoin คือของจริงหรือเงินจริง และทุกสกุลเงินในโลกจะวิ่งเข้าหาศูนย์เมื่อเทียบกับ Bitcoin ซึ่งทุกคนต้องมี Bitcoin ในสัดส่วนที่เท่ากับความรู้ความเข้าใจที่มี ซึ่ง Money Management และ Mindset ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการลงทุน และราคา Bitcoin ที่ 100,000 ดอลลาร์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

ขณะที่ Technical สามารถนำมาใช้ได้จริงว่า สินทรัพย์ใดจะไปได้ แม้ว่าในบางคร้ังอาจจะเดินผิดทางไปบ้าง และเราต้องมี Money Management และควรมีการแยกบัญชี ไม่ใช่ซื้อขายอยู่ในบัญชีเดียวกันหมด ควรแยกบัญชีลงทุนเป็น ระยะยาว ระยะกลาง และระยะสั้น เนื่องจากจุดเข้าและจุดออกไม่เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาสิ่งเหล่านี้คนมักไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะถ้าเรามีสิ่งนี้หากผิดก็ผิดแค่บัญชีเล็ก แต่บัญชีใหม่เป็นบัญชีที่มีขาลงก่อนจะขึ้น จะต้องลงมาครบฟันดาเมนทอล และกราฟคอนเฟิร์มเรียบร้อย และถึงจุดที่มีการเปลี่ยนเทรนด์ และรอให้ CDC แอกชั่นโซนเป็นสีเขียว และเมื่อครบทุกอย่างแล้ว จึงเป็นสัญญาณซื้อเพื่อเข้าบัญชีระยะยาว หรือบัญชีระยะกลาง แต่ทว่าไม่สัญญาณอะไรเลย แต่กลับเด้งขึ้นไปก็ให้นำเข้าบัญชีระยะสั้น หรือบัญชีเล็ก ดังนั้น Money Management ถือว่าสำคัญ

ดังนั้น การเทรด Technical Analysis ไม่ใช่การดูกราฟเพียงอย่างเดียว นั่นหมายถึง Money Management และ Mindset สำคัญมาก และการควบคุมความโลภและความกลัวถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนเช่นกัน มากกว่าการดูว่าหุ้นขึ้น หรือลงเป็นสิ่งที่นำมาประกอบ นอกจากนี้ การลงทุนที่ไม่ให้การทุนในการเทรดจะมีระบบ หรือมีโปรแกรมฟรีให้ได้ใช้ ดังนั้นจึงมองไม่ออกเลยว่า ทำไมถึงขาดทุน

แต่ทว่าสิ่งที่ยากที่สุดคือ เมื่อได้กำไรแล้วจะเก็บกำไรไว้ในรูปแบบอะไร หากเก็บเป็นเงินสดถือว่า พลาด เพราะมันด้อยค่าลงเรื่อย ๆ ควรเก็บเป็นบิตคอยน์หรือทองคำ ในช่วงปี 1971 ถึงปัจจุบันค่าของเงินลดลงไปแล้วกว่า 99.99% เรียบร้อยแล้ว

“การเก็บกำไรในรูปของสกุลเงินกระดาษ เช่น เงินบาท หรือดอลลาร์ มูลค่าจะเสื่อมลงตลอดเวลา แต่ควรเปลี่ยนเป็น ทองคำ หรือ Bitcoin เพื่อรักษามูลค่า ทั้งนี้มองว่า เทรนด์ในอนาคตจะเป็นบิตคอยน์หมด แม้ว่าเราจะลงทุนในหุ้น และเมื่อได้กำไรตามที่ต้องการก็นำมาเก็บออมไว้ในบิตคอยน์ และทองคำ อย่างไรก็ตาม มุมมองกราฟทางเทคนิค ณ ปัจจุบัน Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงขาลงเล็กน้อย เพื่อหาฐาน”

อย่างไรก็ตาม มองเห็นบิตคอยน์เป็นของจริงตั้งแต่ปี 2013 โดยในช่วงนั้นมีช่วงนั้นมีการแจกบิตคอยน์เป็นอังเป่า และได้ลงทุนแจกเครื่องขุดบิตคอยน์ให้กับให้นักเรียนในชมรม เพราะต้องการพยายามให้ได้เรียนรู้ว่า บิตคอยน์คือของจริง หรือเทียบกับเป็นเงินของจริงสิ่งเดียว และมองว่า เงินที่มองว่า เป็นของจริงก็จะไม่ใช่ของจริง และเน้นย้ำว่า ทุกคนต้องมีบิตคอยน์ โดยมีเท่าที่คน ๆ นั้นจะมีความรู้ จะเห็นได้ว่า จากวันนั้นจากศูนย์ ปัจจุบันไปถึง 100,000 ดอลลาร์ และมองว่าในระยะยาวยังไปได้อีกมาก