Bitcoin จะไปถึงไหน ? ฟังจากปาก ‘ท๊อป จิรายุส-ซีเค เจิง-หมู ณัฐวุฒิ’

ราคา Bitcoin จะไปถึงไทน? อาเซียนมีโอกาสเก็บบิตคอยน์เป็นทุนสำรองมั้ย? ฟังจากปาก ‘ท๊อป จิรายุส-ซีเค เจิง-หมู ณัฐวุฒิ’ กรุงเทพธุรกิจสรุปมาให้จากงาน Bitkub Meetup 2025 ครั้งที่ 6
ราคาบิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 110,000 ดอลลาร์ อีกครั้งในวันนี้ (22 พ.ค.) หลังจากตลาดมีความมั่นใจมากขึ้นต่อแนวโน้มของสกุลเงินดิจิทัล จนทำให้ทุกคนตั้งความหวังว่าราคาจะพุ่งทะยานไปถึงไหน?
วันนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” สรุปไฮไลท์สำคัญจากงาน Bitkub Meetup 2025 ครั้งที่ 6 ในหัวข้อ "รู้ทันโลกใหม่: การเงิน เทคโนโลยี และการลงทุนในอนาคต" เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) จากความคิดเห็นของทั้ง 3 หนุ่มในวางการการเงินสมัยใหม่และเทคโนโลยี ทั้ง “ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” Founder & Group CEO of Bitkub Capital Group Holdings, “หมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์” Co-CEO of SIX Network and Plearn, Fund Manager at 500 และ CK Cheong CEO of Fastwork
ราคา “บิตคอยน์” ปีนี้ จะทะยานไปถึงไหน ?
เริ่มที่ “หมู ณัฐวุฒิ” เปิดประโยคแรกด้วยการพูดว่า “นี่คือความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน” ก่อนที่จะพูดถึง “สถิติ” ที่ผ่านมา ราคาของบิตคอยน์ ณ ปัจจุบันอาจจะสามารถไปได้อีกถึงที่ประมาณ 150,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น เมื่อเทียบกับไซเคิลก่อนหน้านี้
แล้วขายเมื่อไหร่ดี?
หมูบอกว่าในความเป็นจริง ราคาสูงสุดหรือต่ำสุดของบิตคอยน์เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆมาก หลายคนอาจจะขายไม่ทัน ดังนั้นพอถึงจุดนึง ต้นทุนแต่ละคนไม่เหมือนกัน การ DCA ขายออกอาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ส่วน “ซีเค เจิง” เปรียบเทียบมูลค่าของสิ่งที่มีจำกัดกับไม่มีจำกัดอย่าง “บิตคอยน์” ที่มี 21 ล้านเหรียญบิตคอยน์ นั่นแปลว่าในอนาคต 1 บิตคอยน์ก็เท่ากับ 1 บิตคอยน์
ขณะเดียวกัน ”เงิน” ที่รัฐบาลพิมพ์ออกมาได้เรื่อยๆ จนทำให้เกิด “เงินเฟ้อ” เช่น ราคาก๋วยเตี๋ยวชามเดียวที่มีมูลค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับ 30 ปีที่ผ่านมา
“ซีเค เจิง” อยากให้ทุกคนซื้อบิตคอยน์ด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง คือการซื้อบิตคอยน์เพราะอยากออกจาก “ระบบการเงิน” ที่รัฐบาลสร้างมันเอาไว้ เพราะเงินคือหนี้ ถ้ารัฐบาลไม่สามารถหยุดพิมพ์เงิน ดังนั้นเราต้องซื้อทรัพย์สินที่ไม่มีใครพิมพ์ออกมาได้อย่าง “บิตคอยน์”
มีโอกาสเห็น “บิตคอยน์” ในฐานะทุนสำรองในอาเซียนหรือไม่?
“ท๊อป จิรายุส ” พูดถึง “โดนัล ทรัมป์” ที่บอกว่าอเมริกาจะให้ความสนใจคริปโทและ AI ซึ่งนอกจากนี้ในอนาคตหลายๆ ประเทศอาจพิจารณาเก็บบิตคอยน์เป็นทุนสำรอง เมื่อสหรัฐเริ่มเก็บบิตคอยน์ ดังนั้นเรื่องนี้ “มาแน่นอน” หลังจากที่ IMF ยอมรับบิตคอยน์เป็นหนี่งในสินทรัพย์
สำหรับอาเซียนจะเกิดขึ้นมั้ย ท๊อปมองว่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงในระบบการเงิน “สิงคโปร์เป็นผู้นำ” ดังนั้นอาจจะต้องรอสิงคโปร์ และถ้าประเทศไทยมีความเห็นว่าจะซื้อบิตคอยน์เป็นทุนสำรองคงไม่ได้ซื้อที่ราคา 3 กว่าบาท แต่ซื้อเป็นประเทศท้ายๆ ตามประเทศอื่นๆ
หมู ณัฐวุฒิมองว่าบริษัทเอกชนในหลายๆ แห่งก็เริ่มหันมาซื้อบิตคอยน์ในงบดุลคล้ายกับบริษัท microstrategy และอีกหลายๆบริษัท รวมทั้งในอนาคตไทยอาจพิจารณาซื้อบิตคอยน์เป็นทุนสำรอง ถ้าสหรัฐและประเทศเพื่อนเริ่มหันมาให้ความสนใจ
ในอนาคตรายย่อยอาจจะไม่สามารถซื้อบอตคอยน์ได้ เพราะเหรียญมีจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญบิตคอยน์ แต่เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น หมูยกตัวอย่างถ้ามหาเศรษฐีระดับล้านดอลลาร์ทั้งหมดประมาณ 48 ล้านคนสนใจอยากซื้อบิตคอยน์ก็คงไม่เพียงพอ
สุดท้าย ซีเค เจิง จะไม่ยอมขายบิตคอยน์ให้ใครแน่นอน ถ้าอเมริกาบอกว่าจะ ซื้อ 1 แสนเหรียญบิตคอยน์







