ลูกค้า Coinbase หวั่น แฮกเกอร์เจาะข้อมูล ขู่เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์
Coinbase กระดานเทรดคริปโทยักษ์ โดนแฮกเกอร์
เจาะข้อมูล เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ สร้างรอยร้าววงการคริปโทเรื่อง ’ความปลอดภัย
รอยเตอร์รายงานว่า “คอยน์เบส” Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ชี้แจงต่อผู้กำกับดูแลสหรัฐว่าอาจสูญเงินประมาณ 180 ถึง 400 ล้านดอลลาร์จากการโดนแฮกข้อมูลลูกค้า "กลุ่มเล็กๆ"
หลังจากเมื่อวันที่ 11 พ.ค.68 ทาง Coinbase ได้รับอีเมลจากคนร้ายที่ไม่เปิดเผยตัว อ้างว่ามีข้อมูลบัญชีลูกค้าบางส่วน รวมถึงเอกสารสำคัญภายในของบริษัทอยู่ในมือ
อย่างไรก็ดี Coinbase บอกว่าถึงแม้ข้อมูลส่วนตัวบางอย่าง เช่น ชื่อ ที่อยู่ และอีเมล จะถูกขโมยไป แต่แฮกเกอร์ไม่สามารถเข้าถึงชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลสำคัญในการล็อกอินได้ โดย Coinbase จะชดเชยเงินคืนให้กับลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนเงินให้กับแฮกเกอร์กลุ่มนี้
รอยเตอร์รายงานว่สเหล่าแฮกเกอร์ใช้วิธีจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาและพนักงานหลายคนที่ทำงานด้านสนับสนุนลูกค้าอยู่นอกประเทศสหรัฐ เพื่อให้คนเหล่านั้นรวบรวมข้อมูลลูกค้ามาให้ ซึ่งตอนนี้ Coinbase ได้ไล่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำนี้ออกไปหมดแล้ว
นอกจากนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่าก.ล.ต. (SEC) กำลังตรวจสอบว่า Coinbase ได้รายงานจำนวนผู้ใช้งานจริงถูกต้องหรือไม่ เพราะข้อมูลผู้ใช้งานที่ไม่ถูกต้องนี้อาจบ่งชี้ว่า Coinbase ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ลงทะเบียน KYC อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทที่จดทะเบียนกับ SEC ต้องทำตาม แต่ด้านโฆษกของ Coinbase ได้ออกปฏิเสธว่า ก.ล.ต. สหรัฐไม่ได้กำลังตรวจสอบว่า Coinbase เกี่ยวกับประเด็นนี้
ทั้งนี้บริษัทกำลังถูกฟ้องร้องในศาลนิวยอทั้งนีในตอนนี้ โดยมีข้อกล่าวหาว่าบริษัทซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลับไม่สามารถปกป้องข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าจำนวนมาก ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าปัจจุบัน ตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อศาล
Coinbase ตัดสินใจที่จะไม่จ่ายเงินค่าไถ่จำนวน 20 ล้านดอลลาร์ให้กับแฮกเกอร์ และกำลังร่วมมือกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวน แต่ในทางกลับกัน Coinbase ได้ตั้งรางวัลนำจับถึง 20 ล้านดอลลาร์สำหรับใครก็ตามที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแฮกเกอร์ได้
‘แฮกเกอร์’ สร้างรอยร้าววงการคริปโท
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ คอยน์เบสจดทะเบียนเข้าสู่ดัชนี S&P 500 ในวันที่ 19 พ.คน.นี้ จากความหวังในการสร้างการยอมรับคริปโทในวงกว้างมากขึ้น ข่าวนี้กลับมาสร้างความกังวลให้กับอุตสาหกรรมในเรื่อง “ความปลอดภัย”
ถึงแม้ว่าคนทั่วไปจะเริ่มยอมรับคริปโทมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เรื่องความปลอดภัยก็ยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทายอยู่ เช่น ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา Bybit ได้เปิดเผยว่าถูกแฮก ทำให้โทเคนดิจิทัลมูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ถูกขโมยไป ซึ่งถือว่าเป็นการโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
รายงานจาก Chainalysis ระบุว่าเงินที่ถูกขโมยโดยแฮกเกอร์มีมูลค่ารวม 2.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 ที่ผ่านมา