Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 7% ฟื้นตามตลาดหุ้น หลังทรัมป์ขยายเวลาเก็บภาษี 90 วัน

Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 7% ฟื้นตามตลาดหุ้น หลังทรัมป์ขยายเวลาเก็บภาษี 90 วัน

Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 7% ฟื้นตัวตามตลาดหุ้น หลังทรัมป์ขยายเวลาเก็บภาษีไป 90 วัน ดันคริปโท-หุ้นคริปโทบวก คาด บิตคอยน์ผันผวนในกรอบ 80,000 - 90,000 ดอลลาร์ตลอดทั้งปี

"ราคาบิตคอยน์"วันนี้ (10เม.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 7.64% (ณ เวลา 07:50 น.)ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สู่ระดับ 82,181.70 ดอลลาร์  หลังจากที่ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศอนุมัติการระงับการเก็บภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วัน

Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 7% ฟื้นตามตลาดหุ้น หลังทรัมป์ขยายเวลาเก็บภาษี 90 วัน

นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เช่น อีเธอร์, โดจคอยน์ และ XRP ต่างก็มีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 12% ในขณะที่โทเค็น Solana พุ่งขึ้นมากกว่า 14%

ขณะเดียวกันหุ้นที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์อย่าง บริษัท MicroStrategy ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Strategy  มีราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 23% ส่วน Robinhood ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้นและคริปโทเคอร์เรนซี ก็มีราคาเพิ่มขึ้น 24% และ Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ ก็มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 17%

 บิตคอยน์ผันผวนในกรอบ 80,000 - 90,000 ดอลลาร์

เบ็น คูร์แลนด์ ซีอีโอของแพลตฟอร์มวิจัยคริปโท DYOR กล่าวว่า การที่ทรัมป์ประกาศระงับการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วันนั้น ถือเป็นการผ่อนคลายแรงกดดันต่อตลาดในระยะสั้น โดยที่ทรัมป์ยังคงรักษาอำนาจในการต่อรองไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแนวทางการค้าของเขานั้นเน้นผลประโยชน์เป็นหลัก ไม่ใช่อุดมการณ์

การเคลื่อนไหวนี้อาจทำให้นักลงทุนและธุรกิจรู้สึกสงบและมั่นคงขึ้นชั่วคราว แต่ก็ไม่นานพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานหรือการตัดสินใจลงทุนที่แท้จริง

"ตลาดอาจจะรู้สึกโล่งอก แต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่" สำหรับราคา Bitcoin ที่ร่วงลงมาต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์นั้นเป็นเพียงช่วงสั้นๆ และค่อนข้างเป็นไปตามที่คาดการณ์ เนื่องจากราคาได้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 80,000 ถึง 90,000 ดอลลาร์มาตลอดทั้งปี หลังจากที่เคยขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในเดือนมกราคม"

ทั้งนี้ ราคา Bitcoin ปรับตัวลดลงประมาณ 12% ในปีนี้ และลดลงเกือบ 25% จากจุดสูงสุดตลอดกาล

นอกจากนี้ แซค แพนเดิล หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Grayscale Investments กล่าวว่า แม้ว่าในระยะสั้น Bitcoin น่าจะยังคงเคลื่อนไหวตามทิศทางของหุ้นเทคโนโลยี แต่ "นักลงทุนที่เน้นการลงทุนในระยะยาวควรจัดสรรพอร์ตการลงทุนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในช่วงที่มีความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ ที่รุนแรงในอดีต"