กองทุน ETH คลื่นลูกใหม่ตลาดคริปโท สแตนชาร์ดชี้ราคาพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์

กองทุน ETH คลื่นลูกใหม่ตลาดคริปโท สแตนชาร์ดชี้ราคาพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์

คริปโตมายด์ชี้จับตา “กองทุนอีเธอเรียม“ ETH Spot ETF คลื่นลูกใหม่ตลาดคริปโท หลังจากกองทุนทั้ง 7 อยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติจาก ก.ล.ต.สหรัฐด้านสแตนชาร์ด มองว่าราคาพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์หลังจากการอนุมัติอย่างแน่นอน เพราะไม่มีกองทุน”รายใหญ่”ที่ถือ ETH ไม่เยอะเหมือนบิตคอยน์

นายสัญชัย ปอปลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวถึง เทรนด์การลงทุนปี 2567 มองว่าการอนุมัติของ Bitcion Spot ETF จะส่งผลให้ ตลาดคึกคักมากขึ้น

รวมทั้งคาดการณ์ว่า Ethereum Spot ETF จะเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองต่อไป ซึ่ง Ethereum เองก็จะมีตัวขับเคลื่อนคือ Layer2 ซึ่งมี Fundamental Value ค่อนข้างสูง Platform หรือ Application ต่าง ๆ ที่สร้างบน ETH DeFi ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น

 

ในส่วนของการลงทุนช่วงตลาดขาขึ้นแนะนำว่าการเทรดตาม Narrative เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่อง จากหากถือเหรียญบางตัวนาน แต่ Narrative ยังไม่ถึงก็ควรจะถือไว้ก่อน เพราะหาก Rotate มากอาจจะ เสียโอกาสได้ หากให้แนะนำคือเราเชี่อ Narrative ไหน เพราะอะไร หาเหตุผลสนับสนุน และคำนวณเรื่องการกระจายความเสี่ยง เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงโดยเฉพาะในโลกของคริปโทฯ ที่ความผันผวนจะขึ้น ลงเร็วมาก ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน

ด้านธนาคารยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ ออกมาคาดการณ์อีกครั้งว่า ราคาของ Ethereum (ETH) อาจพุ่งสูงถึง 4,000 ดอลลาร์ ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากการยื่นขอจัดตั้งกองทุน ETH Spot ETF มีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบในสหรัฐ

เจฟฟ์ เคนดริก (Geoff Kendrick) นักวิเคราะห์ของสแตนชาร์ด ตั้งข้อสังเกตว่าทาง ก.ล.ต.จะพยายามเลื่อนการอนุมัติ Ethereum Spot ETFs ออกไปเช่นเดียวกับ Bitcoin จนกว่าจะถึงเส้นตายที่เคยได้กำหนดไว้ ซึ่งนั่นคือวันที่ 23 พฤษภาคม นั้นคือวันที่ SEC จะต้องให้คำตอบแก่ VanEck และ Ark/21Shares

แม้ว่าตลาดจะยังคงไม่เชื่อมั่นถึงการที่ Ethereum จะได้รับการอนุมัติเร็วขนาดนี้ แต่ทางธนาคารกลับเห็นต่าง และมองว่าไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะทำให้ SEC ปฏิบัติกับ Ethereum ต่างจาก Bitcoin อีกทั้งยังชี้ให้เห็นว่า ETH Future ETF นั้นก็ได้มีการลิสต์บนตลาดหลักทรัพย์ Chicago Mercantile Exchange (CME) แล้ว ขณะที่ SEC เองก็ไม่ได้เพิ่ม ETH ลงไปในรายชื่อเหรียญที่เป็นหลักทรัพย์ในตอนที่มีคดีความกับ Ripple

นักวิเคราะห์ยังได้คาดหวังว่าราคาของ ETH จะพุ่งสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม ซึ่งนั้นอาจจะทำให้ Ethereum ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า Bitcon 

เมื่อย้อนดูประวัติราคาจะพบว่า ราคาของ Bitcoin นั้นเพิ่มขึ้นมากถึง 85% นับจากช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ BlackRock ยื่นเรื่องขอจัดตั้งกองทุน ETF โดยมีราคาประมาณ 25,000 ดอลลาร์ จนขึ้นมาถึง 47,000 ดอลลาร์ในวันที่ Bitcoin Spot ETF ได้รับการอนุมัติ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าราคาของ Ethereum จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ในรายงานยังได้ระบุอีกว่าตัวของ ETH นั้นจะเจอกับแรงขายหลังการอนุมัติน้อยกว่า Bitcoin เป็นอย่างมาก เนื่องจากกองทุน ETHE ของ Grayscale นั้นไม่ได้มีส่วนแบ่งในตลาดเท่า GBTC และแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ FTX 

ท้ายที่สุด รายงานยังได้เปิดเผยว่า ETF ประเภทแรกที่จะได้รับการอนุมัติในสหรัฐอเมริกาจะอิงราคา ETH แบบสปอตเท่านั้น และไม่รวมผลตอบแทนจากการ Staking

ขณะนี้ มีสถาบันการเงิน 7 แห่ง ที่อยู่ในระหว่างการยื่นเอกสารเพื่อให้ก.ล.ต.สหรัฐพิจารณา ได้แก่ VanEck, 21Shares&ARK, Hashdex, Grayscale, Invesco&Galaxy, BlackRock และ Fidelity