อิสราเอล สั่งอายัดบัญชีคริปโทกว่า 100 บัญชี ระงับแหล่งเงินทุนกลุ่ม'ฮามาส'

อิสราเอล สั่งอายัดบัญชีคริปโทกว่า 100 บัญชี ระงับแหล่งเงินทุนกลุ่ม'ฮามาส'

เจ้าหน้าอิสราเอล สั่งอายัดบัญชีคริปโทของไบแนนซ์มากกว่า 100 บัญชี เนื่องจากพบว่ามีการบริจาคผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกว่า 150 ครั้ง และยึดเหรียญคริปโทมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ นับแต่วันที่เริ่มสงคราม 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับ"ผู้ก่อการร้าย"

keypoint :

  • อิสราเอลได้สั่งให้ปิดบัญชี "คริปโทไบแนนซ์กว่า 100 บัญชี
  • อายัดคริปโท 32 แห่ง มูลค่ากว่า 873,000 ดอลลาร์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ “การก่อการร้ายและสงคราม”
  •  

เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของอิสราเอลได้สั่งให้ปิดบัญชี "คริปโท" หลายสิบบัญชี และยึดเหรียญคริปโทมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ และเพิ่มความพยายามในการตัดการเชื่อมโยงระหว่างตลาดคริปโทและกลุ่มฮามาส(Hamas) หลังจากการโจมตีในประเทศ

แหล่งข่าวจากอิสราเอลได้มีการเปิดเผยกับสำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์ส(Financial Times) ว่า มีบัญชีมากกว่า 100 บัญชีในไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโท ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถูกปิดไปแล้วนับตั้งแต่การโจมตีของฮามาสเริ่มขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีคริปโทเพิ่มเติมอีก 200 บัญชี โดยระบุว่าส่วนใหญ่เป็นบัญชีไบแนนซ์

ทั้งนี้ ไบแนนซ์(Binance) ยืนยันว่าได้ "บล็อก" บัญชี "จำนวนเล็กน้อย" นับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน และเสริมว่า "ปฏิบัติตามกฎการคว่ำบาตรที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล" และปฎิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่ม

ก่อนหน้านี้รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลมีความกังวลมาอย่างยาวนาน ว่าองค์กรก่อการร้ายอาจใช้ตลาดคริปโท เพื่อพยายามระดมทุนโดยใช้คริปโทจำนวนมากโดยกลุ่มฮามาส จึงมีการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อรับและโอนเงิน ทำให้ความกงวลดังกล่าวต้องเร่งด่วนมากขึ้นในการโจมตีระหว่างฮามาสและอิสราเอลที่เกิดขึ้น

กังวลคริปโทเป็นแหล่งเงินทุนผู้ก่อการร้าย

นายทอม อเล็กซานโดรวิช ผู้อำนวยการ Israel National Cyber Directorate กล่าวว่า ในช่วงสงคราม สกุลเงินดิจิทัลเป็นปัญหาสําคัญ เพราะมีการใช้เพื่อการจัดหาเงินทุนให้กับการก่อการร้าย เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น และจํานวนเงินของกองทุนคริปโทเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้น

วานนี้ บริษัท Tether ผู้ออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ที่ตรึงกับมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ สกุล USDT ที่ใช้กันทั่วโลก กล่าวว่าได้อายัดที่อยู่คริปโท 32 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยเงินมากกว่า 873,000 ดอลลาร์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ “การก่อการร้ายและสงคราม” ในอิสราเอลและยูเครน

นอกจากนี้ ทางการอิสราเอล ระบุว่าได้รวบรวมโพสต์บนโซเชียลมีเดียหลายรายการในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล้วนเป็นการโพสต์ขอบริจาคเป็นสกุลเงินดิจิทัลให้กับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาส ตามเอกสารการบังคับใช้กฎหมายของอิสราเอลที่ Financial Times เห็น

พบกลุ่มฮามาสรับบริจากกว่า 150 โครงการ

โครงการบริจาคประมาณ 150 โครงการในเครือฮามาสและกลุ่มอื่น ๆ ได้รับการยืนยันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา กองกำลังตำรวจอิสราเอลระบุในโพสต์โซเชียลมีเดียว่า ได้อายัดบัญชีที่ไม่ระบุจำนวนบัญชีที่ใช้โดยกลุ่มฮามาสเพื่อการระดมทุน

ก่อนหน้านี้หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของสหรัฐ กล่าวหาว่าเงินที่ถืออยู่ในไบแนนซ์ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มฮามาสมาตั้งแต่ปี 2019 โดย “คณะกรรมาธิการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า” ได้ยื่นฟ้องร้องไบแนนซ์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ผู้บริหารระดับสูงของไบแนนซ์มีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมของฮามาส

ก่อนการโจมตี เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของอิสราเอลได้ติดตามบัญชีคริปโท ที่ต้องสงสัยว่าเชื่อมโยงกับการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ทุกครั้งที่มีการเปิดระดมทุนโดยกลุ่มฮามาส จะมีการเผยที่อยู่คริปโท จากนั้นพนักงาน Binance และเจ้าหน้าที่สืบสวนจะติดตามไปยังบัญชีหรือที่อยู่คริปโทที่เกี่ยวข้อง

ทางการอิสราเอลจึงได้รับความช่วยเหลือจากสาธารณะเพื่อระบุและติดตามการไหลเวียนของเงินทุนที่น่าสงสัยในตลาดคริปโท และในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ทางการอิสราเอลได้ยึดเงินหลายล้านเชเขลในบัญชีคริปโท ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มฮามาสและองค์กรติดอาวุธอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง

อ้างอิง Financial Times