รู้จัก 'หยวนดิจิทัล' ก่อนไปจีน นำร่องเปิดใช้ CBDC ในกลุ่มนักท่องเที่ยว

รู้จัก 'หยวนดิจิทัล' ก่อนไปจีน นำร่องเปิดใช้ CBDC ในกลุ่มนักท่องเที่ยว

รู้จัก 'หยวนดิจิทัล' ก่อนไปจีน หลังรัฐบาลจีนนำร่องเปิดใช้ CBDC ทดสอบในกลุ่มนักท่องเที่ยว ต้องเชื่อมต่อการชำระเงิน Visa และ Mastercard เพื่อใช้งานผ่านแอป e-CNY เพิ่มทางเลือกชำระเงินของนักท่องเที่ยวที่มาชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2565

นักท่องเที่ยวที่วางแผนจะไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถเติมเงินในกระเป๋าเงิน “หยวนดิจิทัล” ล่วงหน้าได้โดยใช้ตัวเลือกการชำระเงินของ Visa และ Mastercard โดยมีตัวเลือก “เติมเงินก่อน ใช้ทีหลัง”

แอป e-CNY ซึ่งยังอยู่ในเวอร์ชันนำร่อง มีให้บริการสำหรับผู้ใช้ iOS และ Google Play Store ในประเทศจีน โดยแอปพลิเคชันนี้ให้บริการผู้ใช้โดยอนุญาตให้พวกเขาเปิดกระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลเพื่อใช้ e-CNY ซึ่งในการอัปเดตแอป iOS ล่าสุด  ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กันยายน เวอร์ชัน 1.1.1 ได้เพิ่มการรองรับบริการเติมเงินด้วยตัวเลือกบัตรจากต่างประเทศ

ตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่นของจีนหลายแห่ง ระบุว่า แอป e-CNY เวอร์ชันล่าสุดออกมาพร้อมๆ กับการเริ่มต้นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์

โดยจีนได้ทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัลเป็นทางเลือกในการชำระเงินสำหรับชาวต่างชาติที่มาเยือนประเทศจีนมากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของ Yicai การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2565 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการนำร่อง CBDC ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมกับร้านค้าในท้องถิ่นโดยใช้ e-CNY

 

นักท่องเที่ยวขาเข้า สามารถใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือในต่างประเทศเพื่อลงทะเบียน และเปิดกระเป๋าเงิน e-CNY และใช้คุณสมบัติการเติมเงิน ซึ่งขณะนี้รองรับการชำระเงินด้วย Visa และ Mastercard แล้ว

หยวนดิจิทัล คืออะไร?

หยวนดิจิทัล เป็นสกุลเงินดิจิทัล หรือ Digital Currency Electronic Payment (DCEP) ที่ทางธนาคารกลางจีนเริ่มพัฒนาในปี 2557 และผลิตออกมาให้ใช้จ่ายผ่านระบบบล็อกเชน และระบบออนไลน์ เพื่อสนับสนุนสังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบ

ขณะเดียวกัน จีนกำลังทดลองให้ประชาชนใช้ ‘เงินหยวนดิจิทัล’(Digital Yuan) จำนวน 200 ล้านหยวน ในสี่เมืองใหญ่ของประเทศคือ เซินเจิ้น ซูโจว สงอัน และเฉิงตู รวมถึงร้านเอกชนใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสตาร์บัคส์ หรือแมคโดนัลด์ แถมบางเมืองยังมีการทดลองจ่ายครึ่งหนึ่งของเงินเดือนข้าราชการเป็นหยวนดิจิทัล และยังเริ่มทดลองระหว่างประเทศไปแล้ว

ส่วนมูลค่าระหว่างหยวนกระดาษกับหยวนดิจิทัลจะเทียบที่ 1:1 ซึ่งเม็ดเงินหยวนดิจิทัลนั้นจะไหลเวียนอยู่ในระบบบล็อกเชน แต่การพัฒนาบนระบบ บล็อกเชนนี่แหละที่ทำให้หยวนดิจิทัล ‘แตกต่าง’ เพราะระบบบล็อกเชนนั้นมีรูปแบบการทำธุรกรรมแบบกระจายสำเนาทั่วถึงกัน ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกเอาไว้เป็นโค้ดคอมพิวเตอร์ หากจะแก้ธุรกรรมใดสักธุรกรรมก็ต้องไปไล่แก้ในสำเนาจำนวนมหาศาล ทำให้การคอร์รัปชันหรือฟอกเงินเป็นไปได้ยากมาก ซึ่งทางการจีนก็วางแผนไกลไปถึงว่าในอนาคตการเงินจีนจะใช้หยวนดิจิทัลแบบ 100% เลยทีเดียว

อ้างอิง cointelegraph

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์