เมื่อนิวยอร์กปรับกฎหมายป้องกันทุจริตของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล | สุมาพร (ศรีสุนทร) มานะสันต์

เมื่อนิวยอร์กปรับกฎหมายป้องกันทุจริตของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล | สุมาพร (ศรีสุนทร) มานะสันต์

เมื่อต้นเดือน พ.ค. 2566 สำนักงานอัยการสูงสุดแห่งรัฐนิวยอร์ก ได้เปิดเผยการเสนอร่างกฎหมาย Crypto Regulation, Protection, Transparency and Oversight Act (CRPTO) เพื่อเพิ่มบทบาทในการป้องกันการฉ้อโกงจากผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในนิวยอร์ก

พร้อมทั้งให้หน่วยงานภาครัฐอย่าง New York State Department of Financial Services (NYDFS) ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน มีอำนาจให้ใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้การกำกับดูแลธุรกิจดังกล่าวเป็นไปอย่างโปร่งใสและเพื่อคุ้มครองนักลงทุน

สาเหตุการปรับกฎหมาย 

ในเอกสารที่เผยแพร่โดยสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า ที่ผ่านมา ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในนิวยอร์กเติบโตอย่างรวดเร็ว และตรวจพบว่านักลงทุนจำนวนมากสูญเงินลงทุนในรูปของการลดลงจากมูลค่าของคริปโทเคอร์เรนซี

ประกอบกับการโดนฉ้อโกง การสร้างราคา (market manipulation) การดำเนินธุรกิจที่คลุมเครือ คิดเป็นเงินรวมกว่าแสนล้านดอลลาร์ 

หนึ่งในสาเหตุ คือ การขาดกฎหมายที่ตรวจสอบและควบคุมธุรกิจนี้อย่างจริงจังในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นธุรกิจประเภทใหม่ที่มีความเสี่ยงเฉพาะตัวในลักษณะที่แตกต่างจากบริการทางการเงินในอดีต จึงจำเป็นที่ต้องปรับปรุงกฎหมายเพื่อกำกับดูแลธุรกิจและปกป้องเงินของนักลงทุน ในลักษณะที่ใกล้เคียงกับบริการทางการเงินประเภทอื่น

ลด Conflicts of Interest ของธุรกิจคริปโทฯ

อีกหนึ่งในเหตุผลของการที่รัฐเข้ามาควบคุมมากขึ้น คือการศึกษาของสำนักงานอัยการ พบว่า มีการทำธุรกิจในลักษณะ “ผลประโยชน์ทับซ้อนหรือขัดกัน” ที่เป็นผลเสียต่อนักลงทุนและเป็นปัจจัยลบต่อการส่งเสริม

การแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาดคริปโทฯ เช่น กรณีบริษัท Terraform Labs ผู้สร้างเหรียญ Luna ซึ่งเป็นโทเคนที่มีคุณสมบัติเป็น DeFi และ Governance Token ของแพลตฟอร์ม Terra 

ผู้ใช้งานสามารถนำเหรียญดังกล่าวไปสร้าง Stablecoin ที่ใช้ในการ Stake เพื่อทำธุรกรรมบน Terra Chain และในขณะเดียวกันบริษัทก็ได้สร้างแพลตฟอร์ม Anchor สำหรับฝากหรือออมเหรียญที่ให้บริการบน Terra chain

ซึ่งมีออฟชันทั้งการให้กู้ยืมและการค้ำประกันเหรียญ Luna โดยในทางปฏิบัติได้ออกข้อกำหนดหลายรูปแบบที่ให้ผลตอบแทนแบบจูงใจในการลงทุน Luna หรือ Anchor  

จากตัวอย่างข้างต้น การดำเนินธุรกิจในลักษณะดังกล่าวโดยบริษัทเดียวกัน จึงอาจก่อให้เกิดความไม่โปร่งใสได้โดยง่าย ทั้งยังตรวจพบการกำหนดมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีความแน่นอน ผันผวน และง่ายต่อกันปั่นราคา หรือสร้างอุปสงค์เทียม อันเป็นผลเสียต่อตลาดและนักลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เสนอแก้ไขกฎหมายเดิม

ในหลักการตามข้อเสนอของสำนักงายอัยการ การแก้ไขครั้งนี้เป็นการแก้ไขกฎหมายหลายฉบับ ได้แก่

  1. แก้ไขกฎหมายธุรกิจ ในหมวดที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล
  2. แก้ไขกฎหมายการให้บริการทางการเงิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มอำนาจให้ NYDES ในการกำกับดูแล และออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โบรเกอร์ ตลาดซื้อขาย ผู้ให้คำแนะนำการลงทุน และผู้เสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัล
  3. กฎหมายภาษี เพื่อกำหนดให้การชำระราคาหรือเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลต้องจัดทำรายงานตามกฎหมาย

เพิ่มหมวด “สินทรัพย์ดิจิทัล” ในกฎหมายธุรกิจ 

ข้อเสนอที่สำคัญในการแก้กฎหมายครั้งนี้ คือการเพิ่มหลักการเรื่อง “สินทรัพย์ดิจิทัล” เป็นหมวดเฉพาะในกฎหมายธุรกิจ ซึ่งกล่าวถึงแนวทางการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจ การป้องกันการฉ้อโกงหรือการทุจริตที่ใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลาง

การสร้างระบบขึ้นทะเบียน/การให้ใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และบทลงโทษผู้กระทำความผิด โดยมีจุดมุ่งหมายในการคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน

ในหมวดการเพิ่มเติมกฎหมายธุรกิจ มีข้อกำหนดหลายบางประการที่ให้ความคุ้มครองผู้บริโภค เช่น ข้อห้ามในการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่รับอนุญาต (Unauthorized transfer) ซึ่งหากฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าวจะมีความผิดตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดข้อห้ามต่างๆ ตามกฎหมาย เช่น ห้ามประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบอื่นนอกจากที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายนี้

(กฎหมายฉบับนี้เสนอให้ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ 4 ประเภท broker, issuer, marketplace และ investment adviser กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายฉบับนี้ จะต้องเปิดเผยเอกสารต่อสาธารณชน 

โดยต้องระบุว่าได้ทำตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามกฎหมายอย่างครบถ้วนแล้ว และผู้ประกอบธุรกิจทุกรายจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย

ที่สำคัญกฎหมายยังกำหนดห้ามอ้างอิงราคาสินทรัพย์ดิจิทัลใด กับ Stablecoin หรือมีการกล่าวอ้างว่าสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทใดมีคุณสมบัติเทียบเท่า stablecoin เว้นเสียแต่จะมีการอ้างอิงในอัตราส่วน 1:1 กับ ดอลลาร์หรือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง ตามที่จะกำหนดไว้ในกฎหมายต่อไป 

ทั้งนี้ หากมีการออกเหรียญในลักษณะดังกล่าว จะต้องมีการคงสินทรัพย์ที่อ้างอิงนั้นไว้ตลอด ซึ่งหากฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าวจะถือเป็นการประกอบธุรกิจโดยไม่ชอบตามกฎหมายฉบับนี้

แก้กฎหมายภาษีให้ธุรกิจต้องรายงานข้อมูล

กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการในนิวยอร์ก และได้รับการชำระราคาค่าสินค้าหรือบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนเกินกว่า 5,000 ดอลลาร์ จากผู้ชำระราคาที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก ต้องรายงานธุรกรรมดังกล่าว รวมถึงระบุตัวผู้จ่ายให้ภาครัฐทราบตามข้อกำหนดของกฎหมายภาษีด้วย

ท้ายที่สุด ปัจจุบันร่างกฎหมายฉบับนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการแห่งรัฐนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นกฎหมายฉบับหนึ่งในสหรัฐ ที่เสนอหลักการหลายประการในการกำกับธุรกิจที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าสนใจ