‘คริปโตมายด์’ ฉายภาพ ปัจจัยหนุนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

‘คริปโตมายด์’ ฉายภาพ  ปัจจัยหนุนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

ปัจจุบันตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการพัฒนาของเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ผู้ลงทุน และธุรกิจต่างมองหาโอกาสในการเข้าสู่ตลาดดังกล่าว  ทำให้ธุรกิจคริปโทฯ ในประเทศไทย จึงเป็นโอกาสในตอนนี้ 

"สัญชัย ปอปลี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด ฉายภาพให้เห็นว่า ปัจจุบันโอกาสสำหรับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วย 6 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญ เริ่มจากปัจจัยที่ 1 คนไทยมีความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีความรู้ความเข้าใจที่มากขึ้น และที่สำคัญ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พัฒนา “Wholesale CBDC” ได้ประสบความสำเร็จ และก้าวหน้าระดับต้นๆ ของโลก   ซึ่งโปรเจกต์ Wholesale CBDC ของไทยมีชื่อว่า Inthanon (อินทนนท์) 

 นอกจากนั้นในปี 2563 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในส่วนของ Retial CBDC ในธุรกิจที่เป็นความร่วมมือระหว่างธปท. เอสซีจี และบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด มีจุดประสงค์เพื่อทดลองเชื่อมต่อ CBDC การวางบิล และการชำระเงินระหว่างเอสซีจีกับคู่ธุรกิจ

คริปโท

และปลายปี 2564 เริ่มพัฒนา Retail CBDC สำหรับประชาชนทั่วไป ล่าสุดทาง ธปท.ได้กำหนดการทดลองใช้ชำระสินค้าบริการในพื้นที่เฉพาะ (pilot test) ช่วงปลายปี 2565 ถึงกลางปี 2566

ทั้งนี้เชื่อว่า ในอนาคตการใช้ CBDC เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ จะเป็นเทรนด์ทั่วไปของไทยที่จะเปลี่ยนเงิน Fiat (Fiat Money)หรือเงินที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ไปใช้เป็นเงิน CBDC ที่ออกโดย ธปท. อย่างแพร่หลาย ทำให้คนไทยเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลง่ายขึ้น เหมือนอย่างจีนที่มี “ดิจิทัลหยวน” 

ปัจจัยที่ 2 ประเทศไทยมีกฎหมายที่สนับสนุนธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล มีหน่วยงานออกกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมรับฟัง และปรับปรุง ให้ผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมธุรกิจมากขึ้นในอนาคต

“สัญชัย" กล่าวว่า  ปัจจัยที่3 ประเทศไทยมี Crypto Ecosystem ที่ครบถ้วน คอยสนับสนุนตั้งแต่ Exchange, ICO Portal, Broker, Dealer, Fund Manager, Advisory, DeFi, NFT, GameFi, Metaverse, Media, Community, KOL, Miner, Software House, VC, Accelerator ครอบคลุมอุตสาหกรรมบล็อกเชน

ปัจจัยที่ 4 รูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดโอกาสทางธุรกิจไทย ที่เกิดขึ้นแล้วมี 4 รูปแบบ ดังนี้ รูปแบบที่ 1. Investment & Fundraising Opportunity  Digital Asset ช่วยเปิดช่องทางการลงทุน รูปแบบใหม่ให้นักลงทุนมากขึ้น เช่น ICO และ Asset Tokenization ที่ทำให้การซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทำได้ง่าย และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับสินทรัพย์นั้นมากขึ้น 

รูปแบบที่ 2 Collectibles ความสามารถในการเก็บผลงานเอาไว้บน Blockchain ของ NFT ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบความเป็นเจ้าของที่แท้จริง ส่งผลดีต่อนักสะสมให้สามารถสะสมงานศิลปะได้สะดวกขึ้น และป้องกันการแอบอ้างจากผู้ปลอมแปลงผลงานได้

รูปแบบที่ 3 Marketing & Privilege ผู้ถือ Token หรือ NFT มีสิทธิได้รับสิทธิ พิเศษได้มากกว่าคนทั่วไป เช่น การบริการที่เหนือกว่า การได้รับส่วนลดในร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือใช้เป็นบัตรผ่านในการเข้าร่วมกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม และรูปแบบที่ 4 FINTECH สามารถนำบล็อกเชนมาประยุกต์เข้ากับธุรกิจ Fintech ได้ เพื่อเพิ่มรูปแบบการบริการให้มีประสิทธิภาพและมีความหลากหลาย                           

ปัจจัยที่ 5  สินทรัพย์ดิจิทัล ยังมีช่องทางต่างๆ ในการโปรโมตธุรกิจในประเทศไทยทั้ง Media และ Influencer ให้เลือกได้หลากหลาย จากงาน Blockchain Thailand Week ที่จัดขึ้นในปีที่ผ่านมา จากผู้เข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน พิสูจน์ได้ว่าคนไทยให้ความสนใจในคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้น ถือเป็น Blockchain Week ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของ SEA

“สัญชัย" กล่าวว่า  ปัจจัยที่ 6  ความร่วมมือของทุกฝ่ายที่ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Digital Asset Hub in SEA และกำลังได้รับความสนใจจากต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัททั้งใน และต่างชาติที่จะสร้างความสัมพันธ์เพื่อผลักดันธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลร่วมกันผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เตรียมจัดขึ้นมากมายในปีนี้ ทั้งยังมีหน่วยงานเอกชนที่ร่วมช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Digital Asset Hub in SEA เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจได้เพิ่มในอนาคต

ทั้งนี้ขอยกตัวอย่างความสำเร็จการเสนอขายICO สำหรับธุรกิจ เช่น  "Siri-hub token"   เพิ่มช่องทางใหม่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์สภาพคล่องต่ำ ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ให้สามารถลงทุนราคาเริ่มต้นแค่ 10 บาท  ซื้อขายเปลี่ยนมือได้ในตลาดรอง อีกทั้งยังมีสิทธิรับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอาคารสำนักงาน Siri Campus อีกด้วย

หรือ "Destiny token" มีจุดเริ่มต้นจากละครบุพเพสันนิวาส ทางผู้จัดละครมีแนวคิดทำภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส 2 ในปี 2565 และเปิดระดมทุนผ่าน ICO Destiny Token เป็นโครงการของ ดีเอช ห้าห้าเก้า และบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ทำร่วมกับ Kubix 

ตัวอย่างการใช้ NFT สำหรับธุรกิจ เช่น  “BAR-B-Q Plaza” ร่วมกับทาง Bitkub Blockchain Technology ออก NFT ที่มีชื่อว่า GO(N)FT โดย NFT ชุดนี้มาในรูปแบบ Loyalty Campaign ช่วยสร้างกลยุทธ์CRM โดยสิทธิเศษที่ได้รับ คือ ส่วนลดดิลิเวอรี 200 บาท และชุดหมู 1 ฟรี 1

รวมถึง “Central Shopping Bag NFT”  เป็น Limited Edition NFT Collection ฉลองครบ 75 ปีของห้างเซ็นทรัล เพื่อให้ลูกค้าที่สะสมคะแนนชอปปิงผ่าน The 1 Application เข้ามาเป็นเจ้าของ โดยผู้ถือ NFT ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น ใช้เป็นส่วนลด เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ หรือแลกรับของรางวัล นอกจากนี้ Central ยังบอกว่าเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่โลก Metaverseในอนาคตด้วย 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่สนใจในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล  ควรศึกษาข้อมูล และวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียด รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการลงทุน และควรมีการจัดการความเสี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์