“บิทคับ” จ่อเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงปี 67 เผย วอลุ่มซื้อขายวันละ 2.3 หมื่นลบ.

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Bitkub Capital Group เปิดเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศว่า มีเป้าหมายที่จะจดทะเบียนในฮ่องกง โดยคาดว่าเร็วที่สุดในปี 2567 เมื่อตลาดเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากฮ่องกงมีกฎระเบียบและสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์สูง ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทนำมาใช้ประกอบพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน

จิรายุส กล่าวในระหว่างการสัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่งานประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation (Apec) summit  ว่าจุดแข็งของเราอยู่ในภูมิภาคอาเซียนตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะเชื่อมต่อกับตลาดใกล้บ้าน และจากการมีบริษัทไม่กี่แห่งจัดการเงินของลูกค้าผิดพลาดหรือมีธรรมาภิบาลที่แย่มาก ไม่ได้หมายความว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นไม่ดี

แม้ว่าฮ่องกงเป็นผู้นำด้านการเงินเสมอมา แต่เพื่อให้โมเมนตัมดำเนินต่อไปและยังคงเป็นผู้นำ ควรมีกฎระเบียบที่เสรีและเปิดกว้างมากขึ้น และเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น

 

บริษัทจดทะเบียนไทยเกือบ 40 แห่ง เติบโตในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

2 ชาติมหาอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือจีนและสหรัฐฯ ประเด็นระดับโลกที่เชื่อมโยงถึงเรื่องการค้าไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งรุนแรงขึ้นจากสงครามรัสเซียกับยูเครน เป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของบริษัทต่างๆ ที่เข้าจดทะเบียนรวมถึงบิทคับด้วย

Bitkub ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทย ครองมาร์เก็ตแชร์กว่า 90% ในประเทศ โดยมีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 2.3 หมื่นล้านบาท หรือราว 642 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน

เกือบจะกลายเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นรายแรกของไทย ด้วยการที่บริษัทมีมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ประกาศในเดือนสิงหาคมว่าได้ล้มเลิกแผนการที่จะซื้อหุ้น 51% ในบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัท ท่ามกลางปัญหาด้านกฎระเบียบกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

 

ความโปร่งใสกับหน่วยงานกำกับดูแล

จากการที่บิทคับได้รับการดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลของไทยอย่างเข้มงวด อาจส่งผลเสียต่อโอกาสที่บริษัทจะเข้าจดทะเบียนในฮ่องกงหรือไม่ 

“เห็นได้ชัดว่า ฉันคิดว่าเมื่อเราเปิดเผยต่อสาธารณะ เราจะต้องดำเนินการตรวจสอบสถานะที่เหมาะสมให้เสร็จสิ้น เรามีความโปร่งใสอย่างเต็มที่ เราไม่คิดว่าจะมีปัญหา” จิรายุสระบุ

 

ฮ่องกงเร่งพัฒนากรอบการดูแลคริปโท

ในขณะที่ฮ่องกง ได้มีการพูดถึงกรอบของกฎระเบียบใหม่สำหรับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2562 แต่อนุญาตให้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในเมืองโดยนักลงทุนมืออาชีพเท่านั้น

โดยคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้กล่าวว่ากำลังเร่งงานเตรียมการสำหรับระบอบการออกใบอนุญาตใหม่ เพื่อเชิญชวนให้อุตสาหกรรมคริปโทเคอเรนซี่และสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาทำธุรกิจในฮ่องกง

บิทคับยังคงโฟกัสที่ประเทศตะวันออกเฉียงใต้ และเรียกร้องให้ฮ่องกงเร่งดำเนินการ ซึ่งน่าประหลาดใจตรงที่ประเทศไทยมีความก้าวหน้ามากกว่าฮ่องกง โดยกฎระเบียบไม่ควรก้าวล้ำกว่าเทคโนโลยี แต่อย่างน้อยควรสามารถตามทันการพัฒนาล่าสุดได้