วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก บรรลุข้อตกลงการค้า

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลง จากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่ม Big-cap อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน ขนส่ง และอสังหาฯ
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่จะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,206.59 จุด -13.68 จุด -1.12% มูลค่าการซื้อขาย 42,699 ลบ. Program Trading -2,441.74 ลบ. ต่างชาติ -3,009.00 ลบ. TFEX -14,733 สัญญา ตราสารหนี้ -7,956.07 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 254.48 จุด หรือ +0.62% ขานรับข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและ สหราชอาณาจักร และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าการเจรจากับจีนที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะมีสาระสำคัญมากกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ +3.17% ปิดที่ 59.91 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นสองประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดของโลกจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าในระหว่างพบปะกันที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
+/- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย
+ BoE มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 4.25% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ปัจจัยลบ
- คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (Ballistic Missile) พิสัยสั้นจำนวนหลายลูกไปยังทะเลญี่ปุ่น โดยยิงจากเขตวอนซาน ทางตะวันออกของเกาหลีเหนือ
- ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นจำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เดินทางไปประเทศกาตาร์ตามคำเชิญส่วนตัวของเจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นการนัดหมายส่วนตัว
- กองทัพปากีสถานแถลงว่าได้ปฏิบัติการยิงโดรนของอินเดียตกจำนวน 12 ลำ หลังจากตรวจพบว่าโดรนเหล่านี้ล่วงล้ำน่านฟ้าเข้ามาปฏิบัติการในหลายพื้นที่ของประเทศ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ปรับตัวขึ้นต่อ โดยได้แรงหนุนจากการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,200-1,220 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกองทุน TESGX: BBL BEM CPALL PTT TISCO
• หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 1Q68 จะออกมาดี : STECON OSP WHA TRUE
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง กลุ่มนำเข้าวัตถุดิบ TVO TFG COM7 SYNEX MCS KCG กลุ่มที่มีหนี้เป็นสกุลดอลลาร์ GULF GPSC BGRIM MINT PTTEP
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET50 : BCP KKP TCAP / หุ้นออกจาก SET50 : BGRIM GLOBAL ITC
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET100 : AURA MBK TOA WHAUP / หุ้นออกจาก SET100 : CKP COCOCO ROJNA SAPPE
*การคำนวณ SET50/100 ยังขาดข้อมูลเดือน พ.ค. อีก 1 เดือน
หุ้นรายงานพิเศษ
KCG "ซื้อ" Bloomberg consensus 11 บาท Upside 26%
"Consensus คาดกำไร 1Q68 เติบโต YoY แต่หดตัว QoQ"
•Consensus คาดกำไรสุทธิ 1Q68 เฉลี่ย 109 ลบ. เติบโต +52%YoY จากอุปสงค์ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาด B2B และ B2C ประกอบการเปิดใช้โครงการ Logistic Park ซึ่งช่วยให้การจัดการสินค้าคงคลังและการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งการใช้โซลาร์เซลล์ในโครงการ Logistic Park และโรงงานช่วยประหยัดค่าไฟ ทำให้ %SG&A มีแนวโน้มลดลง เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม ขณะที่คาดว่าผลประกอบการจะหดตัว -33%QoQ เนื่องจากผ่านช่วง High season ในไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีการจับจายใช้สอยมาก อีกทั้งภาพรวมต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วง 4Q67 คาบเกี่ยวมาถึงช่วง 1Q68 เป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการเพิ่มเติม
•ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มผลประกอบการ 1Q68 ที่คาดว่าจะเติบโต YoY แต่หดตัว QoQ อย่างไรก็ตามภาพรวมราคาวัตถุดิบที่เริ่มปรับตัวลงในช่วงต้น 2Q68 ประกอบกับการเปิดใช้โครงการ Logistic Park เต็มปี 68 และการใช้โซลาร์เซลล์ ทำให้ %SG&A มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการปี 68 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรปี 68 เฉลี่ย 441 ลบ. +9%YoY ราคาเหมาะสม 11 บาท โดยราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 12x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม 13x อีกทั้งมี Upside 26% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) GULF (Bloomberg consensus 62.00 บาท) ใส่เกียร์เร่งธุรกิจชูเรตติ้งดีขึ้นหลังควบ วางเป้าโต 25% จ่ายไฟปีนี้เพิ่ม 1.5 พันเมก นำเข้า LNG แตะ 4-5 ล้านตัน เริ่มรับรู้ทางด่วน คิกออฟ ดาต้าเซ็นเตอร์ 25 เมกปีนี้ ก่อนขยาย 200 เมกใน 3 ปี เตรียมขอออกหุ้นกู้ 3 แสนล้านบาท ด้านงบไตรมาส 1/2568 ธุรกิจเดิมกำไรปกติตามนัด 5.3 พันล้านบาท โต 28% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MPJ (Bloomberg consensus - บาท) เดินเกมปรับแผนรับสงครามการค้า รุกขยายช่องทางการขนส่ง-เพิ่มสัดส่วนทางการค้าในกลุ่มอาเซียน และตะวันออกกลาง ลดการพึ่งพาตลาดเดียว ส่งซิกประเทศไทยมีศักยภาพ ขึ้นแท่นเป็น HUB การค้าระหว่างประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SCGP (ราคาเหมาะสม 19.00 บาท) แย้มแนวโน้มไตรมาส 2/2568 ฟอร์มแจ่ม จากความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น หนุนออเดอร์สูงขึ้น แถมย้ำเป้าอิบิทดาปีนี้แตะ 1.8 หมื่นล้านบาท รับฐานธุรกิจโตคุมเข้มต้นทุน พร้อมอัดงบลงทุน 1.3 หมื่นล้านบาท ลุย M&P เสริมแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PLT (Bloomberg consensus 1.14 บาท) รับอานิสงส์ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลง กดต้นทุนลดฮวบ หนุนมาร์จิ้นพุ่งขึ้น ฟากผู้บริหารวาง 3 กลยุทธ์ พัฒนากองเรือ ขยายกองเรือ พร้อมลงทุนธุรกิจใหม่โครงการสถานีเติมก๊าซ ขยายฐานลูกค้ากลุ่มพลังงานในประเทศ (ที่มา ทันหุ้น)