วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นสหรัฐ-จีนเจรจาการค้า

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นสหรัฐ-จีนเจรจาการค้า

วันพุธที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นกลับมายืนเหนือระดับ 1,200 จุด ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความคาดหวังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนคลี่คลายลง

หลังสหรัฐเผยว่าเตรียมเจรจาการค้ากับจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ตามด้วยแรงซื้อในหุ้น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง ค้าปลีก และไอซีที อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุมเฟดที่ประกาศช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,220.27 จุด +32.41 จุด +2.73% มูลค่าการซื้อขาย 53,984.70 ลบ. Program Trading +5,497.12 ลบ. ต่างชาติ +4,523.97 ลบ. TFEX +1,489 สัญญา ตราสารหนี้ +11,251.85 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 284.97 จุด หรือ +0.70% โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มชิปในช่วงท้ายตลาด หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนยกเลิกการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงมติการประชุม
+ FED มีมติเป็นเอกฉันท์ในการตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเตือนถึงความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจ และความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยควบคู่กับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น (stagflation)
+ ผู้แทนระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ จะพบหารือเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรที่สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นภาษีศุลกากรและการค้า
+ GIP BlackRock บริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกเตรียมร่วม "ซีพี-ทรูไอดีซี" ลงทุน "กิกะดาต้าเซ็นเตอร์" ระดับภูมิภาค มูลค่าสูงถึง 1.75 แสนล้านบาท รองรับเวิร์กโหลดของเทคโนโลยีขั้นสูง

 

 

+/- กบน.ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรองรับภาษีสรรพสามิต ตรึง ราคาน้ำมันหน้าปั๊ม บรรเทาผลกระทบประชาชน ยอมรับเงินไหลเข้ากองทุนลดลง 49.57 ล้านบาทต่อวัน ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันฯยังสามารถบริหารเงินกองทุนน้ำมันฯ ได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ (30 ก.ย.68) เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพประชาชน มอบหมายให้ สกนช. ประเมินผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษี น้ำมันเบนซินและดีเซล อีกลิตรละ 0.15-1 บาท

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.02 ดอลลาร์ หรือ -1.73% ปิดที่ 58.07 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจา ด้านนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ และสต๊อกน้้ามันเบนซินสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 188,000 บาร์เรลสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง เพิ่มกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์เชื้อเพลิงที่อ่อนแอ
- กกร. ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 68 เหลือ 2.0-2.2% จากเดิมคาด 2.4-2.9% โดยลดเป้าส่งออกปีนี้เหลือ 0.3-0.9% จากเดิมคาดโต 1.5-2.5% และปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้เหลือ 0.5-1.0%จาก 0.8-1.2% ในกรณีเลวร้ายที่สุดหากถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ประเมิน GDP ปี 68 อาจโตเพียง 0.7-1.4% ส่งออก -2%
- คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (Ballistic Missile) พิสัยสั้นจำนวนหลายลูกไปยังทะเลญี่ปุ่นในช่วงเช้าวันนี้
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชี้นักท่องเที่ยวจีนลดต่ำกว่าหมื่นคนต่อวัน เนื่องจากจีนมีเทศกาลท่องเที่ยว เตรียมออกแคมเปญ ดึงนักท่องเที่ยวแต่ละมณฑลจีน เที่ยวไทย เตรียมเปิดตัวโครงการเที่ยวคนละครึ่งช่วงเดือนส.ค.นี้

 


 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ปรับตัวขึ้นต่อโดยได้แรงหนุนจากสหรัฐและจีนเตรียมเจรจาภาษีการค้าในสวิสเซอร์แลนด์สัปดาห์นี้ และ Fund Flow ที่ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม กกร.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2568 ลงเหลือ 2.0-2.2% จาก 2.4-2.9% เนื่องจากการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนี มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,210-1,235 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกองทุน TESGX: BBL BEM CPALL PTT TISCO
• หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 1Q68 จะออกมาดี : STECON OSP WHA TRUE
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง กลุ่มนำเข้าวัตถุดิบ TVO TFG COM7 SYNEX MCS KCG กลุ่มที่มีหนี้เป็นสกุลดอลลาร์ GULF GPSC BGRIM MINT PTTEP
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET50 : BCP KKP TCAP / หุ้นออกจาก SET50 : BGRIM GLOBAL ITC
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET100 : AURA MBK TOA WHAUP / หุ้นออกจาก SET100 : CKP COCOCO ROJNA SAPPE
*การคำนวณ SET50/100 ยังขาดข้อมูลเดือน พ.ค. อีก 1 เดือน

หุ้นรายงานพิเศษ  

CREDIT "ถือ" ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus  23.50 บาท
"กำไรงวด 1Q68 เติบโตสูง 101%YoY จากคุณภาพสินเชื่อที่ปรับดีขึ้น"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นสหรัฐ-จีนเจรจาการค้า

•งวด 1Q68 มีกำไรสุทธิ 903 ล้านบาท +101%YoY เนื่องจากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) -43%YoY โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ +1.6%YoY ตามการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อ +1.7%YTD สูงสุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (ธนาคารอื่นที่มีการเติบโตของเงินให้สินเชื่อมีเพียง 2 ราย ได้แก่ BBL +1%YTD, LHFG +0.6%YTD) ที่ยังสามารถชดเชยส่วนต่างอัตรารายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ลดลงเหลือ 7.9% จากระดับ 8.5% ใน 1Q67 ตามการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท. แต่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่

•คุณภาพสินทรัพย์ปรับดีขึ้น %NPL ทรงตัวที่ 4/4% ขณะที่ credit cost ลดเหลือ 2.2% จาก 4.33% ในงวด 1Q67 และ 2.65% ในปี 67 โดยมี %NPL Coverage เท่ากับ 151% ใกล้เคียงกับปลายปี 67 ทั้งนี้ ฐานะเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) เท่ากับ 17.3%

ความเห็น แม้ผลการดำเนินงานงวด 1Q68 เติบโตสูง แต่ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ที่ต้องเฝ้าระวังคุณภาพลูกหนี้จัดอยู่ในกลุ่มเปราะบางที่อ่อนไหวหากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากโครงสร้างเงินให้สินเชื่อส่วนใหญ่ เป็นสินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME ขนาดเล็ก 67% และสินเชื่อนาโนและไมโครเครดิต 13% ที่ต้องเลือกระหว่างการเติบโตของสินเชื่อและความเสี่ยงต่อการเป็น NPL ราคาหุ้นลดลงแรง 14% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาได้กลับฟื้นตัว +2% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดย ซื้อขายที่ระดับ PBV 1.02x สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 0.65x ทั้งนี้ IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 2.7% ต่อปี แนะนำ “ถือ”

หุ้นมีข่าว

(+) BCH (Bloomberg consensus 18.65 บาท) แย้มผลงานปีนี้เด้ง หลังฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งไทยและต่างประเทศ CLMV มาแรง ตะวันออกกลางฮอต รับเต็มประกันสังคมกลับมาจ่ายค่ารักษาโรคยาก (RW>2) สูง ขณะที่หน้าฝนมาแล้วเข้าไฮซีซันยาวถึงไตรมาส 3/2568 หวังลูกค้าประกัน Co-Payment เข้า ชี้ค่ารักษาถูกกว่าไฮเอนด์ เดินหน้าขยายธุรกิจศัลยกรรม-เปิดโรงพยาบาลเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTG (ราคาเหมาะสม 10.00 บาท) กบน. ตรึงราคาน้ำมันหน้าปั๊ม ลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน รองรับมือขึ้นภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ผู้บริหาร PTG ลุยปรับกลยุทธ์เดินหน้าขยายนอน-ออยล์ และจับตาค่าการตลาดใกล้ชิด เพื่อกระจายความเสี่ยงจากรายได้ที่พึ่งพาน้ำมันเพียงอย่างเดียว พร้อมคาดปริมาณเติมน้ำมันไตรมาส 2/2568 มีแนวโน้มเร่งตัว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SC (Bloomberg consensus 2.53 บาท) วางเป้าครึ่งแรกปี 2568 กวาดยอดขายแนวราบ 8.1 พันล้านบาท อานิสงส์ปลดล็อก LTV เปิดโครงการใหม่หนุน พร้อมลุยเปิดแนวราบเพิ่มอีก 5 โครงการ มูลค่า 7.46 พันล้านบาท ปั๊มแบ็กล็อกเพิ่มจากเดิมราว 6 พันล้านบาท รับรู้ยาวถึงสิ้นปีนี้ ย้ำยอดโอนแนวราบแตะ 1.8 หมื่นล้านบาท เล็งอัดโปรโมชั่น กระตุ้นกำลังซื้อ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NCP (Bloomberg consensus - บาท) คลอดโปรดักต์ใหม่ "ไข่ผ้า" เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ตั้งเป้าโกยยอดขายไตรมาส 2 ที่ 5-6 ล้านบาท ปีละ 18 ล้านบาท ชี้เป็นตลาดคู่แข่งน้อย พร้อมเร่ง สรรหาพนักงาน Telesales ให้เพียงพอต่อการบริการลูกค้าในกลุ่ม "Dedicated Telesale Outsourcing Service" ที่มีอัตราการเติบโตสูง (ที่มา ทันหุ้น)