วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดรอติดตามการประชุมเฟดและเจรจาการค้ากับจีน

จีนเตรียมประกาศมาตรการพยุงตลาดในวันนี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC), สำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งชาติ (NFRA) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC)
จะร่วมแถลงในเวลา 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกี่ยวกับการประกาศ “ชุดนโยบายทางการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด” โดยตลาดประเมินจีนต้องการมาตรการกระตุ้นที่เข้มข้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/68 ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อเป้าหมายการเติบโตปีนี้ที่ 5% ด้วยดัชนีทางเศรษฐกิจที่เริ่มอ่อนแอลง ตลาดคาดจะเห็นมาตรการกระตุ้นใหม่ๆ อาทิ การลดดอกเบี้ยเงินกู้, การลดระดับการกันสำรองของธนาคาร รวมถึงเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ
ฝั่งสหรัฐฯ นักลงทุนรอติดตามรายงานประชุมเฟดและการเจรจาการค้ากับจีน: ตลาดหุ้นระยะสั้นชะลอตัวระหว่างรอปัจจัยใหม่ ได้แก่ 1) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) คืนนี้ ตลาดคาดเฟดคงดอกเบี้ยนโยบาย แต่อาจส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะช่วยจำกัดความเสี่ยงของตลาด 2) การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยรมว.คลัง สหรัฐฯ (สก็อต เบสเซนต์) มีกำหนดการพบปะเพื่อเริ่มเจรจาการค้ากับรองนายกรัฐมนตรีจีน (เหอ ลี่เฟิง) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนักลงทุนมองอาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด 3) ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างปากีสถานและอินเดีย อาจเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
ภาพรวมกลยุทธ์ ยังลุ้นการฟื้นรายตัว/กลุ่ม โดยใช้ 1,180 จุด ในการชะลอการเก็งกำไร คาดเม็ดเงิน Thai ESG Extra มีโอกาสเป็นปัจจัยหนุนบรรยากาศลงทุนช่วงต้น พ.ค. ขณะที่สามารถเก็งกำไร การเงิน (MTC, SAWAD)หุ้นปลอดภัย โรงไฟฟ้า, การแพทย์, สื่อสาร (EGCO, RATCH, BDMS, BCH, ADVANC, TRUE) และกลุ่มอาหาร ที่แนวโน้มผลประกอบการจะออกมาดี โดยเฉพาะผู้ผลิตเนื้อสัตว์ (TFG, GFPT, BTG, CPF, NSL) ขณะทางพื้นฐานยังระวังการลงทุนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า โดยเฉพาะกลุ่มอาหารที่มีรายได้จากสหรัฐฯ สูง (TU, ITC) และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
แนวรับ: 1,180 แนวต้าน : 1,200-1,220 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 50% vs พอร์ตหุ้น 50%
หุ้นแนะนำ (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)
• CPF (30) : ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก และมีปัจจัยบวกระยะถัดไปจากนำ CPP เข้าจดทะเบียนในตปท. ตัดขาดทุน 24.50 บาท
• BDMS (25) : คาดผลการดำเนินงาน 1Q25 เติบโตดี หนุนจากผู้ป่วยชาวไทย ขณะที่อัตรากำไรยังทำได้ดีต่อเนื่อง ตัดขาดทุน 22.50 บาท
• RATCH (29): ข่าวการปรับลดค่าไฟ (Ft) ไม่มีผลต่อ IPP ขณะที่การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศจะได้ปัจจัยบวกจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง ตัดขาดทุน 25 บาท
• GULF (70) : ได้แรงหนุนหลังการควบรวมกับ INTUCH ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2568 เติบโตเด่น ตัดขาดทุน 46.50 บาท
ประเด็นที่น่าสนใจ
- นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% คาดเฟดคงดบ.พรุ่งนี้ แม้ "ทรัมป์" กดดัน "พาวเวล"
- "ทรัมป์" ยอมรับยังไม่ได้พบเจ้าหน้าที่จีนเพื่อหารือข้อตกลงการค้า
- กพช.เคาะค่าไฟ 3.99 บาทถึงสิ้นปี "พีระพันธุ์" ย้ำเป็นปีแห่งการลดค่าไฟ
- บอร์ด กพช.สั่งทุบอัตรารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน พร้อมเบรกยาวรอแผน PDP ฉบับใหม่
- ที่ปรึกษากม.บอร์ด กสทช.ไร้ข้อสรุปตัดสิทธิ "พิรงรอง" โหวตคำร้อง TRUE หรือไม่ เลื่อนไปถก 15 พ.ค.
- ADVANC โชว์ Q1/68 กำไรสุทธิพุ่ง 25% ตาม EBITDA เติบโต-ค่าเสื่อมลดลง
- บทวิเคราะห์วันนี้ : CPN แนะนำ ซื้อ เป้า 79.60 บาท/ BANPU แนะนำ ถือ เป้า 4.80 บาท/ PTT แนะนำ ซื้อ เป้า 37 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7 พ.ค. – Fed Interest Rate Decision
8 พ.ค. – US Jobless Claims
13 พ.ค. – US CPI







