วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี MINT คาดขาดทุนน้อยลง yoy

เราคงคำแนะนำซื้อสำหรับ MINT โดยราคาเป้าหมายที่ 38 บาท โดยอิงจาก i) เราคาดผลประกอบการ 1Q25F จะขาดทุนลดลง และเราคาดจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี
ตามการดำเนินงานโรงแรมที่แข็งแกร่งทั่วทั้งยุโรป ไทย และมัลดีฟส์ การขยายอัตรากำไร และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้เราคาดผลประกอบการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี (FY25-27F) เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ MINT เนื่องจากรูปแบบธุรกิจที่หลากหลายช่วยรองรับความเสี่ยงได้ ปัจจุบัน MINT ซื้อขายที่ PBV 1.3 เท่าและ PER 16x สำหรับปี 2025F ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตเกือบ -1.5 SD
คาด 1Q25F ขาดทุนลดลงมาที่ 11 ล้านบาท
(i) ธุรกิจโรงแรม: คาดรายได้อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท (+5% yoy, -9% qoq) โดย RevPAR ของโรงแรมในกลุ่ม Owned & Leased ในรูปเงินบาทคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1% yoy ถูกกดดันจากเงินบาทแข็งค่า RevPAR ในสกุลเงินท้องถิ่นคาดว่าจะเติบโตได้ทุกภูมิภาค โดยยุโรป (คิดเป็น 68% ของรายได้โรงแรม, RevPAR +8% yoy), ไทย (+15% yoy) และมัลดีฟส์ (+20% yoy) จากอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักที่สูงขึ้น ขณะที่ออสเตรเลียคาดว่า RevPAR จะอ่อนตัว (ii) ธุรกิจอาหาร: คาดรายได้ทรงตัว yoy จาก SSSG ที่หดตัว -3% yoy โดยไทยการชะลอตัวมาจากกลุ่มไอศกรีม (คิดเป็น 14% ของรายได้อาหาร) จากการเลื่อนทำโปรโมชั่นจากอากาศที่เย็นนานกว่าปกติ ขณะที่ SSSG ในจีนและออสเตรเลียคาดว่าจะลดลงราว 3–6% (iii) EBITDA margin : คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 22.5% จากบริหารต้นทุน ขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยคาดว่าจะลดลงทั้ง yoy และ qoq จากการชำระหนี้ที่มากขึ้นและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของยุโรป หนุนการเติบโตต่อเนื่องในช่วงเหลือของปี
เราคาด MINT ยังคงเติบโตต่อเนื่อง yoy ใน 2Q25F โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและแนวโน้มการจองล่วงหน้าในเดือนเมษายนที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรปซึ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว ส่งผลให้ RevPAR มีแนวโน้มเติบโตในระดับเลขหลักเดียว พร้อมโมเมนตัมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โรงแรมในไทยก็ยังคงเติบโตในระดับเลขหลักเดียวเช่นกัน ส่วนมัลดีฟส์ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว สำหรับธุรกิจอาหาร คาดว่า SSSG จะทยอยฟื้นตัวและกลับมาอยู่ในระดับทรงตัว yoy ได้ใน 2Q25F จากการกลับมาทำแคมเปญส่งเสริมการขาย รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มไอศกรีมที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้จากสภาพอากาศ ในด้านสถานะการเงิน MINT ยังคงเดินหน้าตามแผนลดภาระหนี้ (deleveraging) อย่างต่อเนื่อง โดยคาด Net IBD/E จะปรับตัวดีขึ้นจาก 0.8x ในปี 2024 มาอยู่ที่ 0.7x ในปี 2025F จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างเงินทุนที่มั่นคง นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเร่งชำระหนี้เพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังของปี
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 38 บาท
เหตุการณ์ไฟฟ้าดับล่าสุดในยุโรปส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ MINT ในวงจำกัด เนื่องจากสถานการณ์สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ MINT โดยได้รับแรงหนุนจากโครงสร้างธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงได้ดี ทั้งในเชิงของประเภทธุรกิจ (โรงแรมและอาหาร) และการกระจายตัวทางภูมิศาสตร์ ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนในแต่ละภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราประเมินมูลค่าเหมาะสมของ MINT ที่ Bt38 ต่อหุ้น โดยอิงจาก DCF ปัจจุบันหุ้น MINT ซื้อขายที่ระดับ PBV เพียง 1.3 เท่า และ PER 16 เท่า ซึ่งอยู่ใกล้ระดับ -1.5SD สะท้อนความน่าสนใจในเชิงมูลค่าเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน







