วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTG ถ้ากองทุนน้ำมันพลิกเป็นบวก margin ดีเซลอาจยืดหยุ่นได้มากขึ้น

รอให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของกลุ่มน้ำมันพลิกเป็นบวก 3.0-4.0 หมื่นล้านบาท
ณ วันที่ 27 เมษายน 2568 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (OFFO) ของไทยรายงานว่าผลขาดทุนของกองทุนใน
ส่วนของกลุ่มน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ขาดทุน 4.6 พันล้านบาท ลดลงจากที่มีผลขาดทุนหนัก
ในปี 2567 (ติดลบถึง 6.43 หมื่นล้านบาท เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบลดลง ทั้งนี้
ผู้บริหารของ PTG บอกว่าถ้าหากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของกลุ่มน้ำมันพลิกมาเป็นบวกได้ที่ประมาณ 3.0-4.0 หมื่นล้านบาทเหมือนกับในปี 2562-2563 บริษัทเชื่อว่ากระทรวงพลังงานน่าจะยอมให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลที่ตึงตัวอยู่ในขณะนี้ผ่อนคลายลง ซึ่งจะเห็นว่าในช่วงปี 2562-2563 ค่าการตลาดน้ำมันของ PTG อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 1.87 บาท/ลิตร ในปี 2562 และ 1.89 บาท/ลิตร ในปี 2563 ทั้งนี้จากข้อมูลที่นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเปิดเผยเมื่อวันที่ 24 เมษายนว่ามีกระแสเงินไหลเข้า (inflows) กองทุนประมาณ 326 ล้านบาท/วัน ทำให้เราคาดว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของกลุ่มน้ำมันจะพลิกมาเป็นบวกที่ 3.5 หมื่นล้านบาทได้ภายในประมาณ 120 วัน นอกจากนี้ เรายังคาดว่า PTG น่าจะได้อานิสงส์จากประเด็นนี้มากกว่า PTT Oil and Retail Business (OR.BK/OR TB)* เพราะยอดขายน้ำมันดีเซลคิดเป็นประมาณ 70% ของปริมาณยอดขายน้ำมันทั้งหมดของ PTG ในขณะที่ของ OR คิดเป็นประมาณ 45%
คาดว่ากำไรจะลดลง 30% YoY และ 21% QoQ ใน 1Q68F
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTG ใน 1Q68F จะอยู่ที่ 181 ล้านบาท (-30% YoY, -21% QoQ) โดยกำไรที่ลดลง
ทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะคาดค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 พันล้านบาท (+21% YoY, +8%QoQ) เนื่องจากมีการขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยเป็น 1,476 ร้านใน 1Q68 (+56% YoY, +10% QoQ) ซึ่งสาขาที่เปิดใหม่ 221 สาขาใน 4Q67 และ 129 ร้านใน 1Q68 ยังไม่ได้ทำรายได้ให้บริษัทอย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาส
แรก นอกจากนี้ เราคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันของ PTG จะลดลงเล็กน้อย 1% QoQ มาอยู่ที่ 1.63 บาท/ลิตร และคาดว่าปริมาณยอดขายน้ำมันจะแทบไม่เปลี่ยนแปลง QoQ อยู่ที่ 1,690 ล้านลิตร ในขณะเดียวกันเราคาดว่ารายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 6% QoQ เป็น 5.8 พันล้านบาท ตามปริมาณยอดขายกาแฟจากการขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยเป็น 1,476 ร้านใน 1Q68 ทั้งนี้เราคาดว่ากำไรใน 1Q68F จะคิดเป็น 15% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 1.2 พันล้านบาท
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำถือ PTG และคงราคาเป้าหมายปี 2568F ไว้ที่ 8.10 บาท อิงจาก PE ที่ 11.5x ถึงแม้เราจะ
คาดว่าผลประกอบการใน 1Q68F จะอ่อนแอลง แต่เราคาดว่ากำไรใน 2Q68F จะฟื้นตัวขึ้น QoQ จากการ
ที่ค่าการตลาดน้ำมันของ PTG มีแนวโน้มจะขยับขึ้นไปเหนือ 1.70 บาท/ลิตร ในเดือนเมษายน จากการที่
ราคาน้ำมันดิบลดลงในเดือนเมษายน
Risks
ความผันผวนของค่าการตลาดน้ำมัน, ปริมาณยอดขายน้ำมัน, ปริมาณยอดขาย LPG, ปริมาณยอดขายไบ
โอดีเซล และยอดขายร้านสะดวกซื้อ Max Mart







