วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลง

ประกอบกับสมาชิกเฟดเผยว่าเฟดอาจปรับลด อัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,159.00 จุด +12.14 จุด +1.06% มูลค่าการซื้อขาย 33,120.92 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี +8.05 จุด +0.69%) Program Trading -1,823.07 ลบ. ต่างชาติ -1,876.35 ลบ. TFEX +18,887 สัญญา ตราสารหนี้ -2,160.36 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ +0.05% และปิดเพิ่มขึ้น 2.48% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังนักลงทุนประเมินผลประกอบการ และจับตาสัญญาณ การคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 63.02 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 2.6% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากมีรายงานว่ากลุ่มโอเปคพลัสกำลังพิจารณาเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงลบ หลังจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าอาจจะลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
+ รัฐบาลจีนกำลังพิจารณายกเว้นสินค้านำเข้าบางรายการของสหรัฐฯ จากการถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 125% โดยคณะทำงานของกระทรวงพาณิชย์จีนกำลังขอให้บริษัทต่าง ๆ จัดทำรายการสินค้าที่อาจได้รับสิทธิ์ในการยกเว้นภาษี และส่งคำร้องมายังกระทรวง
+ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินการเจรจาการค้ากับจีน หลังจากจีนออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการเจรจาข้อตกลงใด ๆ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทั้งหมดที่ใช้กับสินค้าจีน
+ กำไรของอุตสาหกรรมจีนเติบโตขึ้น 0.8%YoY สู่ระดับ 1.5 ล้านล้านหยวนใน ไตรมาส 1/2568 พลิกจากลดลง 0.3% ในสองเดือนแรก เฉพาะเดือนมี.ค. กำไรของอุตสาหกรรมจีน เพิ่มขึ้น 2.6%YoY
 

 

 

+/- รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้กำหนดเป้าหมายสินค้าไทย 50-60 รายการ ที่ต้องตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าอย่างเข้มงวด ป้องกันการสวมสิทธิส่งขายสหรัฐ ซึ่งสหรัฐให้ความสนใจเป็นพิเศษ

ปัจจัยลบ  

- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.2 ในเดือนเม.ย. ต่ำสุดในรอบ 32 เดือน จากระดับ 57.0 ในเดือนมี.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.8 ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 6.5% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2524 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค. ที่ระดับ 5.0%
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกเตือนว่าความไม่แน่นอนทางการค้าโลกกำลังซ้ำเติมปัญหาหนี้และเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศตลาดเกิดใหม่ และแนะนำให้ลดภาษีนำเข้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- นักวิเคราะห์ของ EY ITEM Club ปรับลดคาดการณ์ GDP อังกฤษในปี 2568 เหลือ 0.8% จากเดิมที่ระดับ 1% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2569 ลงเหลือ 0.9% จากเดิม 1.6% เนื่องจากคาดว่ามาตรการภาษีศุลกากรของ สหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในภาคเอกชน
- ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ.2568 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก จะลดลงมาอยู่ที่ 4.0% จากเดิมที่ 5.0% ในปี พ.ศ.2567 คาด GDP ไทยโตแค่ 1.6%
- สหรัฐฯปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮูตี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย เมื่อ คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 เม.ย.)
- กองกำลังอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มอาคารในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 เม.ย.)
- กองทัพอินเดียและปากีสถานเปิดฉากยิงปะทะกันเป็นวันที่สอง ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงอย่างหนัก หลังเกิดเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวในแคว้นแคชเมียร์ของอินเดีย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนียังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังจับตาสัญญาณการคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ประกอบกับติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,150-1,170 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : HMPRO GLOBAL DOHOME SCGD TEAMG
• หุ้นที่ธปท.กำลังพิจารณาอนุมัติให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank : KTB ADVANC GULF OR SCB  

หุ้นรายงานพิเศษ  

BH "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 234 ลบ. มีอัพไซต์ 38%
"กำไร 1Q68 หดตัว YoY QoQ แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ตลาดคาด"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

•งวด 1Q68 รายงานกำไร 1,734 ลบ. -13%YoY -9%QoQ เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เราและตลาดคาด โดยมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 6,120 ลบ. -6%YoY -5%QoQ จากการเข้าสู่เดือนรอมฎอนตั้งแต่วันที่ 1-31 มี.ค 68 เทียบกับปีก่อนอยู่ในช่วงวันที่ 11 มี.ค.-9 เม.ย.67 ส่งผลต่อการเดินทางมารักษาของกลุ่มผู้ป่วยชาวตะวันออกกลาง (สัดส่วนราว 10-12% ของรายได้รวม) นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากการหายไปของผู้ป่วยชาวคูเวต และ UAE ตั้งแต่ช่วงกลางปี 67 เนื่องจากการปรับนโยบายส่งตัวผู้ป่วยออกมารักษานอกประเทศ ซึ่งปีก่อนบริษัทมีรายได้จากกลุ่มดังกล่าวราว 5% แต่บางส่วนถูกชดเชยจากการปรับขึ้นค่าบริการตั้งแต่ต้นปีเฉลี่ยราว 4% สอดคล้องกับ %EBITDA ปรับลดลงจากปีก่อนมาที่ 37.7% (1Q67 = 40.7%, 4Q67 = 36.8%)

ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการงวด 1Q68 แม้รายงานออกมาอ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ตลาดคาด และมีโอกาสทยอยปรับดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีจากการ Normalize ฐานผู้ป่วยคูเวตและ UAE รวมทั้งการปรับค่าบริการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเรายังคงคาดการณ์กำไรปี 68 ราว 7,923 ลบ. +2% และ ราคาเหมาะสม 234 ลบ. มีอัพไซด์ 38% แนะนำ "ซื้อ"

•** BH มีจัดประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 30 เม.ย.68 ซึ่งเราจะอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง

หุ้นมีข่าว

(+) DITTO (Bloomberg consensus - บาท) เผยผลดำเนินงานไตรมาส 1/2568 ทุกธุรกิจโตเด่นตามเป้า หลังแผ่นดินไหว หนุนดีมานด์ระบบเตือนภัยพุ่ง ดันยอดเหตุมีความเชี่ยวชาญ ลุ้นคว้างานจัดการเอกสารร่วม 200 ล้านบาท คาดประกาศผลเร็วๆ นี้ หากชนะประมูลงานดันแบ็กล็อกแตะ 800 ล้านบาท ย้ำปีนี้รายได้โต 20-30% ส่วนการออกเสนอขายโทเคนป่าชายเลนอยู่ระหว่างรออนุมัติ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTTEP (ราคาเหมาะสม 108 บาท) คาดการณ์ปริมาณขายเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ประมาณ 500,000-505,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก หลังหยุดซ่อมบำรุงลดลง พร้อมประเมินราคาน้ำมันทั้งปี 2568 เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 65-75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DELTA (ราคาเหมาะสม 89 บาท) โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 มีกำไรสุทธิ 5.4 พันล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.44 บาท เพิ่มขึ้น 27.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,307.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.35 บาท ขับเคลื่อนด้วยกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ เติบโตอย่างแข็งแกร่งสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) LTS (Bloomberg consensus - บาท) ส่งสัญญาณดาต้าเซ็นเตอร์เติบโตดี เตรียมบุ๊กรายได้และส่งมอบงานปีนี้ 300 ล้านบาท แย้มอยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มอีก 2-3 โครงการช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจ ดันรายได้ปีนี้แตะ 1 พันล้านบาทตามเป้า ส่วนธุรกิจส่องสว่างเตรียมรุกตลาด Home AI เต็มสูบ (ที่มา ทันหุ้น)