วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี KBANK 1Q25 ผลประกอบการดีมาก

คงคำแนะนำ BUY และคง TP25F ที่ 178 บ . เพราะ i) มีโอกาสเห็นค่าใช้จ่ายสำรอง credit cost) กลับสู่ระดับติในปี 2025F ที่ 140 - 160 bps. ซึ่ง 1Q25 อยู่ในกรอบที่ 160 bps.
ii)กำไรสุทธิ 2025F คาดเติบโต 9% y-y มากกว่ากลุ่มที่ 4% y-y iii) ปันผลต่อปีสูง dividend yield คาดที่ 6-7% โดย 2H24 มี ปันผล พิเศษ 2.5 บ./หุ้น (yield ที่ 1.5%) ขึ้น XD วันที่ 15/05/2025 สำหรับกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 1.38 หมื่นลบ . ดีกว่าเราและตลาดคาด จากเงินลงทุน กำไรเพิ่มขึ้น + 1% y y และ +28% q-q เพราะการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุน การลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ตามปัจจัยฤดูกาล และค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) จากปี 2024 เร่งจัดการคุณภาพสินทรัพย์
กำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 1.38 หมื่นลบ . เพิ่มขึ้น +1%y-y และ 28%q-q
KBANK รายงานกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 1.38 หมื่น ลบ. ดีกว่าเราและตลาดคาด จาก เงินลงทุน (FVTPL และ Investment) ดีกว่าคาด โดย กำไร เพิ่มขึ้น + 1% y y และ +28% q-q เพราะ i) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) เพิ่มขึ้น +15% y y และ +8% q-q จากเงินลงทุน FVTPL และ Investment) ii) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ลดลง 10% q-q จากปัจจัยฤดูกาล iii) ค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ลดลง 16% y-y และ 20% q-q จากช่วงปี 2024 เร่งจัดการคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio ที่ 3.19% ลดลง จาก 4Q24 ที่ 3.20% สำหรับสินเชื่อรวม 2.0% q-q คิดเป็น 2.0% YTD จากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เน้นสินเชื่อคุณภาพ ด้าน NIM ที่ 3.41% ลดลงจาก 1Q24 ที่ 3.73 และ 4Q24 ที่ 3.48% เพราะการลดลงของ yield on loan จากดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลง
กำไรสุทธิ 1Q25 คิดเป็น 26% ของกำไรสุทธิทั้งปี 2025F คาดที่ 5.29 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น +9% y-y เบื้องต้นประมาณการมี downside จาก GDP คาดที่ 2.4-2.7%และดอกเบี้ยนโยบายคาดที่ 2.0% มีโอกาสต่ำกว่าคาด
คาดกำไรสุทธิ 2Q25F เพิ่มขึ้น y-y ลดลง q-q
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q25F เพิ่มขึ้น y-y เพราะการลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง credit cost) จากช่วงปี 2024 เร่งจัดการคุณภาพสินทรัพย์ ขณะที่ลดลง q-q เพราะ NIM ลดลง จากการลดลงของ yield on loan
คำแนะนำ
เราคงคำแนะนำ BUY และคง TP25F ที่ 178 บ. เพราะ i) เราคาดว่ามีโอกาสเห็นค่าใช้จ่ายสำรอง credit cost) กลับสู่ระดับปกติในปี 2025F ที่ 140-160 bps. ซึ่ง 1Q25 อยู่ในกรอบที่ 160 bps. ii) กำไรสุทธิ 2025F คาดเติบโต 9% y-y มากกว่ากลุ่มที่ 4% y-y iii) มีโอกาสเห็นการปรับเพิ่ม dividend payout ratio และ ROE ได้ในอนาคต