วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ PFund-REITs-IFF - LHHOTEL ดูโดดเด่นในเดือนที่แล้ว

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ PFund-REITs-IFF - LHHOTEL ดูโดดเด่นในเดือนที่แล้ว

กำไรสุทธิของ LHHOTEL แข็งแกร่งที่สุดใน 4Q67 ที่ 1.06 พันล้านบาท

ถึงแม้ว่า LHHOTEL จะรายงานผลประกอบการ 4Q67 ออกมาเป็นกองสุดท้ายในบรรดากองทุนที่เราแนะนำ แต่ผลการดำเนินงานกลับออกมาดีเยี่ยม โดยกำไรสุทธิใน 4Q67 อยู่ที่ 1.06 พันล้านบาท (+75.2%YoY) ทำให้กำไรสุทธิเต็มปีอยู่ที่ 2.58 พันล้านบาท (+63.4% YoY) โดยผลการดำเนินงานที่ออกมาสะท้อนถึงกำไรรายไตรมาสที่สูงที่สุดในงวดนั้น สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกลุ่มโรงแรมในช่วงที่การท่องเที่ยว peak ตามฤดูกาล ทั้งนี้ กองทุนประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหน่วย (DPU) งวด 4Q67 ที่ 0.3875 บาทต่อหน่วย ทำให้ DPU เต็มปี 2567 อยู่ที่ 1.3325 บาทต่อหน่วย

สำหรับในปี 2567 LHHOTEL มีสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2.58 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0 พันล้านบาท จาก 1.58 พันล้านบาท โดยรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 2.35 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าเช่า โดยสาเหตุสำคัญมาจากการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีของ Grande Center Point Space Pattaya และ Grande Centre Point Pattaya นอกจากนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นยังมาจากโครงการโรงแรมที่มีอยู่เดิมของกอง trust ที่ดีขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของไทย

ในส่วนของค่าใช้จ่ายกองทุนอยู่ที่ประมาณ 558.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 376.2 ล้านบาท เพราะต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อที่ใช้ซื้อสินทรัพย์รายการที่สาม ซึ่งได้แก่ Grande Center Point Pattaya และ Grande Center Point Space Pattaya นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งยังมาจากค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการบริหารจัดการกอง REIT, trustee และ ค่าบันทึกทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับขนาดมูลค่าสินทรัพย์รวมของกอง REIT

 

นอกจากนี้ LHHOTEL ยังมีกำไรสุทธิจากการลงทุนตามมูลค่ายุติธรรมประมาณ 777.5 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 เนื่องจากสมมติฐานที่ใช้ในการประเมินราคาสะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงแรมที่กองทุนเข้าไปลงทุน

เราคิดว่าผลการดำเนินงานของกองทุนจะออกมาน่าพอใจในอีกสองสามปีข้างหน้า โดยจะได้แรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของแนวโน้มการท่องเที่ยว และ สินทรัพย์ที่ดีที่กองทุนเข้าไปซื้อ

นอกจากนี้ เรายังชอบ LHHOTEL ในแง่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่ประมาณ 9.5-9.7% ต่อปีในปี 2566 และ 2567 ซึ่งเมื่อมองต่อไปในปี 2568 เราคาดว่าผลการดำเนินงานของกองทุนจะแข็งแกร่งขึ้นอีก YoY ซึ่งหมายความว่า LHHOTEL จะสามารถจ่าย DPU ได้ในระดับที่แข็งแกร่ง และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะสูงถึงเกือบ 10% ต่อปีในปี 2568

Recommendation

เมื่อพิจารณาจากมุมมองต่อเศรษฐกิจที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เรายังคงมองบวกกับการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง ซึ่งหมายความว่า อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ PFund-REITs-IFF ที่อยู่ระหว่าง 6-10% ต่อปีจะมีความน่าสนใจมากขึ้น (เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทย และพันธบัตรสหรัฐ) ดังนั้น เราจึงยังคงแนะนำกองเดิม ได้แก่ i) กองเด่นระดับแนวหน้า: CPNREIT, WHAIR และ AMATAR และ ii) กองเด่นระดับรอง: ALLY, GROREIT, LHHOTEL และ PROSPECT

Risks

โรคระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัว และ การเมืองขาดเสถียรภาพ

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ PFund-REITs-IFF - LHHOTEL ดูโดดเด่นในเดือนที่แล้ว

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ PFund-REITs-IFF - LHHOTEL ดูโดดเด่นในเดือนที่แล้ว

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ PFund-REITs-IFF - LHHOTEL ดูโดดเด่นในเดือนที่แล้ว