เวสต์เทกซัส 66.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 69.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (12 มี.ค. 68) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวท่ามกลางความกดดันต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ หลังสภาวะเศษฐกิจสหรัฐฯ อาจถดถอย
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(+) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือน ส่งผลให้น้ำมันดิบที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินสหรัฐฯ มีราคาถูกลงเมื่อเทียบกันสกุลเงินอื่น ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นการยากที่กลุ่ม OPEC+ จะทยอยปรับเพิ่มกำลังผลิตในเดือนเม.ย. 68 หากราคาน้ำมันยังคงอยู่ทิศทางขาลงและมีระดับต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
(-) อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวล ต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ภายหลังการสัมภาษณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน และปฏิเสธที่จะตัดประเด็นเรื่องสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่มาตรการกำแพงภาษีที่ทางการสหรัฐฯ มีต่อ แม็กซิโก แคนนาดา และจีน อาจกดดันต่อการเติบโตของศรษฐกิจโลกเช่นกัน
(-) อุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่ม หลังจากสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 มี.ค. 68) ว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะสร้างสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในปีนี้ โดยปรับเพิ่มจากคาดการณ์ไว้ก่อนหน้ามาแตะระดับเฉลี่ยที่ 13.61 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคมีแนวโน้มลดลง หลังโรงกลั่น Formosa ในไต้หวัน ได้เริ่มปิดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขการนำเข้าน้ำมันเบนซินของเวียดนามในเดือนก.พ. 68 ที่ปรับลดลงกว่า 40.74% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากตัวเลขนำเข้าน้ำมันดีเซลของเวียดนามในเดือน ก.พ. 68 ปรับลดลงกว่า 16.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องมาจากกิจกรรมการผลิตในประเทศที่ชะลอตัวลงในช่วงเทศกาลเต๊ด (ตรุษเวียดนาม)