วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ThaiESG Extra

วันอังคารที่ผ่านมาช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลง ต่ำสุดราว 16 จุด ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ในช่วงบ่ายดัชนีรีบาวนด์ โดยได้แรงหนุนจาก ครม. มีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุน ThaiESG Extra
มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big-Cap อาทิ ขนส่ง พลังงาน และไอซีที ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,187.63 จุด +10.19 จุด +0.87% มูลค่าการซื้อขาย 49,522.05 ลบ. Program Trading -851.01 ลบ. ต่างชาติ -1,020.48 ลบ. TFEX +9,374 สัญญา ตราสารหนี้ +295.66 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ +0.33% ปิดที่ 66.25 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวกเนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยล่าสุดปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาเป็นสองเท่า
+ สหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 232,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.740 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.630 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 7.508 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค.
+ อิสราเอลตกลงทำการเจรจากับรัฐบาลเลบานอนเกี่ยวกับเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างทั้งสองประเทศ
+ ครม. เห็นชอบ ThaiESG Extra ให้สิทธิลดหย่อนภาษีกลุ่มโอน LTF เดิมสูงสุด 5 แสนบาทต้องโยกหน่วยลงทุนในครั้งเดียว คาดจะมีผู้ใช้สิทธิ์ในการโยกหน่วยลงทุนประมาณ 75% หรือประมาณ 1.35 แสนล้านบาท และกลุ่มลงทุนใหม่ สูงสุด 3 แสนบาท ต้องซื้อหน่วยลงทุนช่วง พ.ค.-มิ.ย. 68
+ คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นชอบแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้ GDP ขยายตัวเกินกว่า 3% ผ่านโครงการต่างๆ รวม 46 โครงการ ตลอดทั้งปี 68 โดยเฉพาะช่วงไตรมาสที่ 2-3 เพื่อเป็นแรงส่งไปถึงไตรมาส 4 และปีหน้า อาทิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่ 3 การท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์และ โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 478.23 จุด หรือ -1.14% หลังจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาเป็นสองเท่า โดยนักลงทุนกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรล่าสุดนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
- สหรัฐยืนยันว่าภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% จะมีผลบังคับใช้กับแคนาดาและประเทศอื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.เป็นต้นไป โดยระบุว่าไม่มีแผนจะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาเป็น 50% อีกต่อไป
- ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับลงอยู่ในเกณฑ์ซบเซาที่ระดับ 66.11 โดยมีปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากสุด ได้แก่ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เงินเฟ้อ และเศรษฐกิจในประเทศถดถอย
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ขึ้นต่อ โดยมีแรงหนุนจาก ครม. เห็นชอบ ThaiESG Extra ให้สิทธิลดหย่อนภาษี กลุ่มโอน LTF เดิม สูงสุด 5 แสนบาท ขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,180-1,200 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสซีรีส์ "The White Lotus" : WPH RP MINT CENTEL BA BAREIT
• หุ้นส่งออก ม.ค. เติบโตดี : STA NER GFPT AAI ITC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : AP LH SIRI SC SPALI QH MTC TIDLOR
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADV
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
หุ้นรายงานพิเศษ
THCOM "ซื้อ" (Bloomberg Consensus 14.10 บาท)
"4Q67 ผลประกอบการปกติจะขาดทุนสุทธิเท่ากับ 23 ล้านบาท"
•บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 4Q67 เท่ากับ 552 ล้านบาท ลดลง -10.2%QoQ และ -12.7%YoY สาเหตุหลักมาจากการลดการใช้งานของลูกค้าในส่วน ที่ดาวเทียมดวงใหม่ไม่ครอบคลุม รวมถึงรายได้ที่ลดลงจากรอยต่อของสัญญาโครงการ USO โดยโครงการดังกล่าวจะกลับมาเปิดประมูลใน 1Q68 ด้านส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมมีกำไรที่ 87 ล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุน 33 ล้านบาทในไตรมาสก่อน และขาดทุน 31 ล้านบาท ใน 4Q66 ส่งผลให้บริษัทรายงานกำไรสุทธิเท่ากับ 189 ล้านบาท แต่หากตัดรายการพิเศษกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 212 ล้านบาท ผลประกอบการปกติจะขาดทุนสุทธิเท่ากับ 23 ล้านบาท ลดลงเทียบกับกำไรปกติ 27 ล้านบาทในไตรมาสก่อน และกำไรปกติ 5 ล้านบาทใน 4Q66 ทั้งนี้ผลประกอบการทั้งปี 67 มีกำไรปกติ 109 ล้านบาท -49.6%YoY
•ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 68 เนื่องจากดาวเทียม THCOM8 จะเริ่มมีรายได้จากลูกค้าอินเดียเข้ามาใน 1Q68 และหากชนะประมูล USO เฟส2 ที่จะเปิดประมูลใน 1Q68 คาดจะรับรู้ได้ใน 1H68 ราคาหุ้นยังมี Upside จากราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus แนะนำ “ซื้อ” (งดจ่ายเงินปันผลเนื่องจากมีผลการดำเนินงานขาดทุน)
หุ้นมีข่าว
(+) SC (Bloomberg Consensus 2.85 บาท) ลุ้นผ่อนคลายเกณฑ์ LTV - ลดภาษีโอน หนุนดีมานด์ทะลัก พร้อมวางเป้ายอดโอน แนวราบแตะ 1.8 หมื่นล้านบาท โครงการเรียงคิวเพียบและมียอดขายโครงการแนวราบที่ 1.88 หมื่นล้านบาท กางแผนเปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาท ปูทางอัพฐาน-ต่อยอดรับทรัพย์เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TKN (Bloomberg Consensus 11.10 บาท) ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมในปี 2568 เติบโตขึ้น 10% โดยยอดขายในประเทศเติบโตตามตลาดสาหร่ายที่คาดขยายตัว 14% พร้อมพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ ด้านยอดขายต่างประเทศยังคงเน้นการออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อให้เหมาะสมตามแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทยังคงเผชิญความท้าทาย จากการแข่งขันในต่างประเทศที่สูงและราคาสาหร่ายที่ผันผวน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) VIH (Bloomberg Consensus 14.00 บาท) ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 โต 10% ขยายฐานคนไข้ทั่วไปและเพิ่มบริการ ชูจุดเด่นรักษาเฉพาะทาง ลงทุน 160 ล้านบาท เครื่องมือทางการแพทย์ ปรับโฉมสถานที่ ส่วนแผนเปิดรพ.ใหม่ 200 เตียง อยู่ขั้นตอน EIA คาดสร้างปีนี้ ให้บริการราวกลางปี 2570 ส่วนกรณีประกันแบบ Co-Payment มองอาจเป็นโอกาสให้คนไข้เพิ่มเพราะหนีค่าใช้จ่ายแพงจากที่อื่น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) XO (Bloomberg Consensus 21.15 บาท) ลั่นปี 68 โตต่อ เร่งเครื่องดันมาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 45% จากปี 67 ทำได้ 47.85% สูงกว่าเป้า รับอานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบลด-บาทอ่อน พร้อมโฟกัสลูกค้าหลักในทวีปยุโรปและทวีปที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าตลาดสหรัฐ แย้มแผนเดินเครื่องไลน์ผลิตใหม่เมษายนนี้ รองรับยอดขาย 1 พันล้านบาทต่อปี (ที่มา ทันหุ้น)