วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CK เติบโตปานกลางด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CK เติบโตปานกลางด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง

CK ขาดทุน 171 ล้านบาทใน 4Q67 จากค่าใช้จ่ายสูงขึ้น รวมถึงสำรองเผื่อหนี้สูญพิเศษและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ต้นทุนทางการเงินเร่งตัวขึ้นและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง

ปัจจัยเหล่านี้ฉุดให้กำไรสุทธิปี 2567 ลดลงเหลือ 1.44 พันล้านบาท (-4% YoY) แต่มองแง่บวก backlog ที่ 2.10 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 นับเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล ซึ่งเพียงพอที่จะประกันรายได้ของ CK ดีในช่วง 5-6 ปีข้างหน้า ส่วนในปีนี้ CK หวังที่จะได้รับงานโครงการทางด่วนยกระดับมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาทภายใน 2H68 ทั้งนี้ โครงการต่างๆ ของรัฐบาลส่วนใหญ่มีกำหนดจะเปิดประมูลในช่วง 2H68 และการลงนามใน
สัญญาน่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปี 2568 หรือต้นปี 2569

แผนธุรกิจปี 2568 ที่มีความระมัดระวังมากขึ้น

CK ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 4.0 หมื่นล้านบาท (+6% YoY) โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ราว 7-
8% รายได้ปี 2568 ส่วนใหญ่ยังคงมาจากงานรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนใต้ เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง และรถไฟทางคู่เด่นชัย ขณะที่ การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มยังเพิ่งเริ่มต้น ดังนั้นการรับรู้รายได้จากโครงการนี้จึงยังคงน้อยมาก ซึ่งน่าจะอยู่ราว 5-7% ของมูลค่ารวม 1.09 แสนล้านบาท ทั้งนี้ รายได้จากโครงการหลวงพระบางยังคงแข็งแกร่งจนถึงปี 2570F อยู่ที่ราว 1.6-1.8 หมื่นล้านบาทต่อปี หลังจากนั้นรายได้ต่อปีจากโครงการนี้จะลดลงอย่างมากในช่วงสุดท้ายของการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2571F ถึง 2572F

ปรับประมาณการกำไรใหม่

เราปรับประมาณการปี 2568 ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัท ซึ่งดูเหมือนว่าจะระมัดระวังมากกว่าประมาณการเดิมของเรา นอกจากนี้ เรายังแก้ไขส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการขายหุ้นครึ่งหนึ่งของ CK ในเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในกลางปี 2568 หรือ 3Q68 มูลค่า 2.7 พันล้านบาท โดยเงินที่ได้นี้จะนำไปใช้ชำระหนี้และเป็นเงินทุนหมุนเวียน (working capital) ส่วนกำไรที่อาจเกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมนี้ เรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการของเรา โดยจะรับรู้ผ่านงบกำไร/ขาดทุนเมื่อโครงการเขื่อนไฟฟ้า

 

พลังน้ำหลวงพระบางเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องแทนที่จะเป็นบริษัทร่วม CK จะไม่ต้องบันทึกส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุนจากบริษัทร่วมนี้อีกต่อไป

Valuation & Action

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2568F ลง 19% อยู่ที่ 1.65 พันล้านบาท (+14% YoY) แต่เราคาดว่ากำไรจะเติบโตแข็งแกร่งขึ้น 25% ในปี 2569F หนุนจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มและโครงการทางด่วนยกระดับ ทั้งนี้ เราปรับลดราคาเป้าหมาย CK ลงที่ 18.50 บาท (จากเดิม 23 บาท) โดยใช้ discounted PE ปี2568F ของค่าเฉลี่ย -1S.D. ที่ 19x และคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยราคาปิดล่าสุดยังเหลือ upside อีกราว 22.5% จากราคาเป้าหมายใหม่ของเรา

Risks

ความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีและการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ ๆ การแก้ไขสัญญาต่าง ๆ การปรับเปลี่ยนฎระเบียบต่าง ๆ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย การปรับเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้สกุลเงินสหรัฐเป็นหลักของโครงการเขื่อนหลวงพระบางและของ CK Power (CKP.BK/CKP TB)

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CK เติบโตปานกลางด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CK เติบโตปานกลางด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CK เติบโตปานกลางด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง

 

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CK เติบโตปานกลางด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CK เติบโตปานกลางด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CK เติบโตปานกลางด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง