วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก MSCI Rebalance

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down จาก Fund Flow ที่ไหลออกเป็นปัจจัยกดดันดัชนี มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่ม Big-Cap นำโดย พลังงาน ไอซีที ค้าปลีก และอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่มีแรงซื้อ นำโดยหุ้น BDMS
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในวันนี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,215.73 จุด -15.41 จุด -1.25% มูลค่าการซื้อขาย 56,035.29 ลบ. Program Trading -2,059.71 ลบ. ต่างชาติ -2,550.81 ลบ. TFEX +2,322 สัญญา ตราสารหนี้ -527.45 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ +2.52% ปิดที่ 70.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัว หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกใบอนุญาตของบริษัทเชฟรอน (Chevron) ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันในเวเนซุเอลา
+ สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP 4Q67 ขยายตัว 2.3% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 22,000 ราย สู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วสูงสุดในรอบ 3 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย
+ 5 หน่วยงาน "สศค.-สศช.-ธปท.-สำนักงบฯ-ก.พ.ร." วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสั้น-กลาง-ยาว ดัน GDP ไทยแตะ 3.5% เตรียมนำเสนอแพ็กเกจชุดใหญ่ให้ "นายกฯ อิ๊งค์" พิจารณา ในเดือน มี.ค.นี้
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ ปิดลดลง 193.62 จุด หรือ -0.45% ส่วนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปรับตัวลงเช่นกัน ตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) หลังจากเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง และปัจจัยลบจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัว ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ ของมาตรการภาษีศุลกากร
- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) แถลงว่า จะตอบโต้ทันทีอย่าง แข็งกร้าวต่อมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเก็บภาษีนำเข้า 25% จากสินค้าของ EU
- ผู้บริหารองค์กรกำกับดูแลธุรกิจการพนันของฟิลิปปินส์ มองว่า แผนการทำให้กาสิโนถูกกฎหมายของประเทศไทยเป็น "ภัยคุกคามใหญ่" สำหรับฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลาง ธุรกิจพนันที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชีย
- ปธน.ทรัมป์ประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดา และเม็กซิโกในวันที่ 4 มี.ค.นี้ หลังจากเลื่อนมา 1 เดือน เนื่องจากทั้งสองประเทศยังไม่ได้ดำเนินการเพียงพอในการลดการลักลอบนำเข้ายาเสพติดข้ามพรมแดน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน เนื่องจากมี MSCI Rebalance ที่จะใช้ราคาปิดวันนี้ ประกอบกับเป็นวันสุดท้ายในการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน มองกรอบดัชนี 1,200-1,225 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC, PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสซีรีส์ "The White Lotus" : WPH RP MINT CENTEL BA BAREIT
• หุ้นส่องออก ม.ค. เติบโตดี : STA NER GFPT AAI ITC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : AP LH SIRI SC SPALI QH MTC TIDLOR
หุ้นรายงานพิเศษ
SPALI "ซื้อ" ราคาเหมาะสม Bloomberg consensus 19.50 บาท Upside 15%
"กำไรปี 67 +3%YoY สูงกว่า consensus คาดการณ์"
•บริษัทมีกำไรสุทธิ 4Q67 เท่ากับ 1,988 ลบ. ทรงตัว QoQ และ YoY แต่สูงกว่า consensus คาดการณ์ราว 23% โดยมีรายได้จากยอดโอนเท่ากับ 8,733 ลบ. -10%QOQ -13%YoY เนื่องจากโอนโครงการไปมากในช่วง 9M67 อีกทั้งในปี 67 เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เต็มที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ %GPM เท่ากับ 37.8% ลดลงจาก 39.6% ใน 3Q67 แต่เพิ่มขึ้นจาก 34.9% ใน 4Q66 เนื่องจากบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดี และมีส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุนโครงการในประเทศออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 197%QoQ และ 137%YoY และค่าใช้จ่ายทางภาษีที่ลดลง 28%QoQ และ 13%YoY ส่งผลให้ %NPM เท่ากับ 21.6% เพิ่มขึ้นจาก 19.9% ใน 3Q67 และ 19.6% ใน 4Q66 ปี 67 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 6,189 ลบ. +3%YoY สูงกว่า consensus คาด 6%
•ความเห็น เรามีมุมมอง “Neutral” ต่อผลประกอบการในปี 68 โดยแนวโน้ม 1Q68 ดีขึ้น YoY เนื่องจากเริ่มมียอดขายเข้ามา ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 68 อีกทั้งกนง. ลดดอกเบี้ยทำให้ลูกค้ามีกำลังซื้อมากขึ้น ขณะที่แนวโน้มปี 68 เติบโตได้อย่างจำกัด และมีความท้าทาย โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 46 โครงการ มูลค่า 46,000 ลบ. -8%YoY เป้า presale 32,000 ลบ. -11%YoY สะท้อนความระมัดระวังของการดำเนินงานในปีนี้ โดย Bloomberg consensus คาดกำไรสุทธิปี 68 เฉลี่ย 5,929 ลบ. -4%YoY อย่างไรก็ตามราคาเหมาะสม Consensus 19.50 บำท มี Upside 15% ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 5x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม 11x เราจึงแนะนำ "ซื้อ" (งวด 2H67 บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.85 บาท/หุ้น Dividend yield 5% XD 7/5/68 วันจ่าย 20/5/68)
หุ้นมีข่าว
(+) AWC (Bloomberg Consensus 4.40 บาท) มั่นใจผลดำเนินงานปี 2568 มีโอกาสนิวไฮต่อจากปี 2567 หลังอัตราเข้าพักสูงต่อเนื่อง เดินหน้ากลยุทธ์เสริมพอร์ตธุรกิจโรงแรม-คอมเมอร์เชียลด้วย 9 โครงการไฮไลต์ งบลงทุนกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท นำโดยโครงการใหม่ Jubilee Prestige Tower มูลค่า 8.7 พันล้านบาท ชี้เป้ายาวอีก 5 ปี สินทรัพย์โตเท่าตัวแตะ 3 แสนล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ADVANC (Bloomberg Consensus 310.00 บาท) ลุยขยายฐานธุรกิจแบงก์ไร้สาขา คาดจะรู้ผลกลางปี 2568 ส่วนการประมูลคลื่นเพิ่มต้องพิจารณาความคุ้มค่าเป็นหลัก เผยได้ GULF ช่วยเสริมการเงินแกร่งพร้อมลุยดาต้าเซ็นเตอร์ จ่อเปิดตัว 1 ศูนย์ใหญ่กลางปีนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2568 โต 3-5% ปั้นอีบิทดาแตะระดับ 3-5% งบลงทุน Capex กาหนด 2.6-2.7 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MAGURO (Bloomberg Consensus 25.13 บาท) ลุยขยายธุรกิจ กางแผนเปิด Tonkatsu AOKI เพิ่มอีก 4 สาขา หลังกระแสตอบรับท่วมท้น พร้อมเปิด 2 แบรนด์ใหม่ ขยายฐานลูกค้า ปั๊มรายได้โต 30% อวดกำไรปี 2567 พุ่ง 33% แตะ 96.6 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AP (Bloomberg Consensus 10.40 บาท) ปักหมุดปี 2568 โกยรายได้ราว 5.29 หมื่นล้านบาท โครงการรอส่งมอบเพียบ ผู้บริหารใส่เกียร์เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 42 โครงการ มูลค่า 6.5 หมื่นล้านบาท หวังปั๊มแบ็กล็อกเพิ่ม จากเดิมราว 4.16 หมื่นล้านบาท แถมปรับโมเดลพัฒนาที่อยู่อาศัย เจาะตลาด-ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)







