วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SPALI ผลประกอบการ 4Q67: ดีกว่าคาดย่างมีนัยสำคัญ

กำไรไตรมาส 4Q67 อยู่ที่ 1.99 พันล้านบาท - ทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ
รายได้จากการขายบ้านลดลงอยู่ที่ 8.7 พันล้านบาท (-13% YoY และ -10% YoY) แต่สูงกว่าเราคาด 6% หลักๆ มาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบแข็งแกร่งและอัตรากำไรขั้นต้นก็อยู่ในระดับสูงที่ 38% ในขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายทรงตัว QoQ ที่ 13.5%(ดีกว่าเราคาดไว้ที่ 15.6%) ในแง่ส่วนแบ่งกำไรจาก JVs ในออสเตรเลียก็พุ่งสูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ อยู่ 117 ล้านบาท หลังจากจำนวนบริษัทที่ JVs ใหม่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ณ สิ้นปี 2567 นอกจากนี้ เรายังเห็นถึงรายได้อื่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ที่ 356 ล้านบาท หลักๆ เป็นเพราะรายได้ดอกเบี้ย อัตรากำไรสุทธิ (net margin) อยู่ที่ 22.5% ซึ่งสูงที่สุดใน 8 ไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่ กำไรทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ อยู่ที่ 1.99 พันล้านบาท แต่สูงกว่าเราคาด 46% และสูงกว่า consensus คาด 40%
กำไรปี 2567 เติบโต 3% YoY อยู่ 6.2 พันล้านบาท
แม้ฐานปี 2566 สูง SPALI ก็ยังสามารถรายงานกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปี 2567 แม้ว่ารายได้จากการขายบ้านจะทรงตัวอยู่ที่ 3.08 หมื่นล้านบาทก็ตาม แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพราะว่า i) อัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งอยู่ที่ 37% (+2% ppt) ii) รายได้อื่นเติบโต 23% และ iii) ส่วนแบ่งกำไรจาก JVs ในออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้น 60%
แนวโน้ม 1Q68F
โดยปกติไตรมาสที่ 1 ของปีจะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอของ SPALI ดังนั้นเราจึงคาดว่ารายได้และกำไรจะลดลง QoQ ปีนี้ ขณะที่ เรายังมีความกังวลต่อแนวโน้มในอนาคตเนื่องจาก backlog ที่จะรอรับรู้เป็นรายได้มีเหลืออยู่น้อยมูลค่ารวมราว 7.5 พันล้านบาทและความเป็นไปได้ที่ margin จะลดลง เนื่องจากสัดส่วนยอดขายคอนโดมิเนียมที่มีอัตรากำไรสูงลดลง ในขณะเดียวกัน เราหวังส่วนแบ่งกำไรจาก JVs ในออสเตรเลียที่สูงขึ้นจะช่วยชดเชยการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยได้
Valuation & action
เราคงคำแนะนำ ถือ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 17.00 บาท อิงจาก discounted PE ที่ 6x (-1SD)
ขณะที่ SPALI ได้ประกาศจ่าย DPS งวดสุดท้ายที่ 0.85 บาท ( yield ราว 5.3%) (XD วันที่ 7 พ.ค.68) โดย
ที่เงินปันผลสะสมทั้งปี 2567 ที่ 1.45 บาท ต่ำกว่าประมาณการของเราเล็กน้อยที่ 1.47 บาท
Risks
ภาวะเศรษฐกิจ ความหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล มาตรการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้นท่ามกลางการยืดหนี้สินในระดับสูงของภาคครัวเรือนรวมทั้งการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ







