วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ประชุม กนง.

ขณะที่วันนี้นักลงทุนจับตาการประกาศ ผลการประชุม กนง. และการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,206.39 จุด -29.46 จุด -2.38% มูลค่าการซื้อขาย 50,189.15 ลบ. Program Trading -4,182.4 ลบ. ต่างชาติ -3,398.5 ลบ. TFEX -4,070 สัญญา ตราสารหนี้ +3,714.9 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 159.95 จุด หรือ +0.37% แต่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักในเดือนก.พ. ซึ่ง ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ผู้นำยูเครน จะเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (28 ก.พ.) ขณะที่ทรัมป์ต้องการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในสงครามของรัสเซียกับยูเครนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
+ กระทรวงพาณิชย์เปิดตัวเลขการส่งออกเดือนม.ค.68 มีมูลค่า 25,277 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13.6%YoY และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 จากตลาดคาดโต 7-8% หากคิดเป็นเงินบาทอยู่ที่ประมาณ 862,367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8%YoY

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.77 ดอลลาร์ หรือ -2.5% ปิดที่ 68.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 2567 เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ และเยอรมนีทำให้ นักลงทุนวิตกกังวลว่าอุปสงค์พลังงานอาจชะลอตัวลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันหลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันในหลายประเทศมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

 

- Conference Board เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 98.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2567 จากระดับ 105.3 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 102.3 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภค มีความกังวลมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า แผนเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นวงกว้างจะเดินหน้าต่อไป เมื่อการชะลอเวลาบังคับใช้ระยะเวลา 1 เดือนสิ้นสุดลงในสัปดาห์หน้า
- สมาชิกฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ระบุเตือนว่า การที่อิสราเอลปฏิเสธที่จะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์กว่า 600 คน ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และเสี่ยงต่อการทำให้ข้อตกลงล่มสลายลง

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงแรง ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้จับตาการประชุม กนง. อย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนี 1,200-1,220 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC, PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.) • หุ้นที่อยู่อาศัยที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนปรนมาตรการ LTV : AP LH SIRI SC SPALI QH
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสซีรีส์ "The White Lotus" : WPH RP MINT CENTEL BA BAREIT
• หุ้นส่องออก ม.ค. เติบโตดี : STA NER GFPT AAI ITC

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

JPARK ("ซื้อ" ราคาเหมาะสม 6.80 บาท)
"กำไร 4Q67 เท่ากับ 23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +47%QoQ และ +7%YoY"

•ผลประกอบการ 4Q67 มีรายได้รวมเท่ากับ 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +15%QoQ จากธุรกิจการให้บริการที่จอดรถ (PS) ที่เป็นสัดส่วน 70% ของรายได้ เติบโตตามพื้นที่ให้บริการที่จอดรถเพิ่มขึ้น และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากลานจอดรถในทeเลที่มีศักยภาพ เช่น บริเวณถนนบรรทัดทอง ตลาดสวนหลวง-สามย่าน แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนรายได้ยังลดลง -7%YoY โดยมีผลมาจากรายได้จากธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (CIPS) เนื่องจากงานโครงการรถไฟฟ้า Smart Parking Management System และ Guidance System ที่บริษัทได้รับสัญญาจ้างมาในช่วงกลางปี 66 ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตาม Percentage of Completion (ส่วนท้ายของ S-Curve) สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 29% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 22% และ 23%ใน 4Q66 จาก Utilization Rate ของธุรกิจให้บริการที่จอดรถที่ดีขึ้น ส่งผลให้มีกำไร 4Q67 เท่ากับ 23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +47%QoQ และ +7%YoY โดยกำไรปกติทั้งปี 67 อยู่ที่ 89 ล้านบาท +11%YoY ใกล้เคียงประมาณการของเรา

•ความเห็น : คาดผลประกอบการปี 68 ยงเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจ PS เริ่มเป็น Utilization Rate ที่ฟื้นตัวดีขึ้น และการรับรู้รายได้โครงการอาคารที่จอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์อีกกว่า1 พันตารางเมตร ตั้งแต่ 1Q68 คงคาแนะนา “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 68 เท่ากับ 6.80 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) GULF (Bloomberg Consensus 65.00 บาท) เชื่อต่างชาติแห่เข้าลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์-คลาวด์ในไทย เหตุดีมานด์ใช้มหาศาล ไม่ห่วงทรัมป์ พร้อมลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์อีกไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์ จากเฟสแรกเริ่มให้บริการเมษายนนี้ ลั่นหลังควบรวมผลดำเนินงานช่วง 3-5 ปีโตแกร่งจากกระจายฐานธุรกิจทั้งโครงสร้างพื้นฐาน-พลังงาน-ดิจิทัล พร้อมเชื่องบ ADVANC โตอย่างมีนัยสำคัญจากต่อยอดธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BJC (Bloomberg Consensus 27.75 บาท)กางบ 1.6 หมื่นล้านบาท ลุยลงทุนตั้งโรงงานผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภค นำนวัตกรรมยกระดับสินค้าแบรนด์ตัวเอง ขยายฐานลูกค้าระดับกลาง-บน ทั้งยังปรับปรุงกระบวนการผลิตกลุ่มบรรจุภัณฑ์แต่จุดคุ้มทุน รองรับคำสั่งซื้อลูกค้าทุกกลุ่ม ผนึกพันธมิตรเกาหลีตั้งศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ พัฒนาทักษะบุคลากรทางการแพทย์ในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการวินิจฉัยโรค หนุนตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปี 2568 เติบโตในกรอบ 10-15% YoY (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPALL (ราคาเหมาะสม 75.00 บาท) ปิดงบปี 2567 ปั้นกำไรสุทธิ 25,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1% จากปีก่อน รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล-รวมถึงการท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติเข้าหนุน เตรียมจ่ายปันผล 1.35 บาทต่อหุ้น เดินหน้าปี 2568 ทุ่มเงิน 13,600 ล้านบาท ลุยขยายสาขา-เล็งโอกาสลงทุนใหม่ต่อยอด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BLC (Bloomberg Consensus - บาท) ปักธงปี 2568 ขยายผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง รับดีมานด์พุ่ง พร้อมยังคงเป้าการเติบโตเฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี ด้านผลงานปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง กวาดรายได้ 1,557 ล้านบาท เติบโต 10.7% ยาสามัญ และสามัญใหม่หนุนโต (ที่มา ทันหุ้น)