วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Down

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Down

วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยมีแรงขายมากนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้น DELTA เป็นปัจจัยกดดันดัชนี ขณะที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่ม GULF เป็นปัจจัยหนุนดัชนี

อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,246.21 จุด +0.60 จุด +0.05% มูลค่าการซื้อขาย 48,456.57 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -25.89 จุด -2.03%) Program Trading -989.93 ลบ. ต่างชาติ -689.45 ลบ. TFEX +20,015 สัญญา ตราสารหนี้ -3,299.03 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.พ.)
+ การประชุมครั้งที่สองระหว่างตัวแทนจากรัสเซียและสหรัฐฯ เรื่องยุติสงครามยูเครนอาจเกิดขึ้นอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์หน้านี้
+ กระแสซีรีส์ "The White Lotus" ซีซั่น 3 ส่งผลจำนวนนักท่องเที่ยวค้นหา ที่พักในเกาะสมุยเพิ่มขึ้น 12% และความสนใจของนักท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นเกือบ 2 ใน 3 หรือ 65%MoM เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็น 1 ในประเทศ 5 อันดับแรกที่มีการค้นหาที่พัก ในเกาะสมุยบนแพลตฟอร์มอโกด้ามากที่สุด
+ คลังโชว์ยอดจัดเก็บรายได้ 4 เดือนแรก ปีงบ 68 อยู่ที่ 8.26 แสนล้านบาท ทะลุเป้า 1 หมื่นล้านบาท

ปัจจัยลบ  

- ดัชนีดาวโจนส์ ปิดลดลง 748.63 จุด หรือ -1.69% ถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและอุปสงค์ที่อ่อนแอของผู้บริโภค และความกังวลเกี่ยวกับ การกำหนดภาษีศุลกากรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ ด้วย
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลง 2.08 ดอลลาร์ หรือ -2.87% ปิดที่ 70.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพในยูเครน
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.4 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน จากระดับ 52.7 ในเดือนม.ค.

 

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศมาตรการภาษีศุลกากรใหม่สำหรับ ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ นอกเหนือจากแผนเดิมที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และยา
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อสั่งการให้คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS) จำกัด การลงทุนของจีนในภาคส่วนที่มีความสาคัญเชิงยุทธศาสตร์
- โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผย ว่า แผนการเก็บภาษีนำเข้าน้ำมัน 10% ของสหรัฐฯ อาจทำให้ผู้ผลิตต่างชาติเสียค่าใช้จ่ายถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เนื่องจากน้ำมันดิบหนัก จากแคนาดาและลาตินอเมริกายังคงพึ่งพาบริษัทกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ขณะที่มีผู้ซื้อและความสามารถในการแปรรูปที่จำกัด

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวน Sideway Down โดยยังมีแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและอุปสงค์ที่อ่อนแอของผู้บริโภค และนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการกำหนดภาษีศุลกากรครั้งใหม่ของสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดสัปดาห์นี้ มองกรอบดัชนี 1,237-1,250 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC, PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.) • หุ้นที่อยู่อาศัยที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนปรนมาตรการ LTV : AP LH SIRI SC SPALI QH

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

DOHOME "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม 9.60 บาท มีอัพไซต์ 30%)
"มุมมองบวกต่อผลประกอบการ 4Q67 และมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องไปยังปี 68"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Down

•งวด 4Q67 มีกำไร 160 ลบ. -19%YoY +108%QoQ (เป็นไปตามที่ตลาดคาด) โดยมีรายได้ 7,623 ลบ. +4%YoY +3%QoQ มีปัจจัยเติบโตจาก SSSG +1.5% สนับสนุนจากงานโครงการภาครัฐ ส่วน %GPM ทรงตัวที่ 16.8% (4Q66 = 16.9%, 3Q67 = 16.4%) ขณะที่ %SG&A ปรับลดลงสู่ 13.7% (4Q66 = 13.9%, 3Q67 = 14.7%) จากการควบคุมต้นทุนและประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่วง 4Q66 มีรายได้พิเศษจากค่าสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์น้ำท่วม 53 ลบ. หากพิจารณาเฉพาะกำไรปกติงวด 4Q67 จะ +13%YoY +108%QoQ ทั้งนี้ ภาพรวมปี 67 บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิ 30,991 ลบ. -1%YoY และ 673 ลบ. +15%YoY

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 4Q67 และคาดจะมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องไปยังปี 68 สนับสนุนจากทั้งงานโครงการภาครัฐและโครงการอสังหาฯภาคเอกชนที่ทยอยออกมามากขึ้น สะท้อน SSSG ช่วงม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นบวก 1-2% โดย ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 7-10% จาก SSSG ที่คาดเติบโตดี รวมทั้งแผนขยายสาขาใหม่แบ่งเป็นสาขาขนาดใหญ่ 3 แห่ง และสาขา ขนาดเล็ก 10 แห่ง นอกจากนี้ %GPM มีแนวโน้มปรับดีขึ้นสู่ 18% จากปีก่อนที่ 17.1% จากการปรับ Product Mix และเพิ่มสัดส่วน House Brand ส่วน %SG&A คาดจะปรับลดลงจากเดิมจากการ Lean Process และปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 68 ราว 881 ลบ. +31%YoY และราคาเหมาะสม 9.60 บาท มีอัพไซต์ 30% แนะนำ "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) PTT (ราคาเหมาะสม 33.00 บาท) เปิดแผนเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน-ปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มบริษัท ดันเติบโตมั่นคง มุ่งลงทุนในธุรกิจหลัก-ใช้เงินลงทุนน้อยแต่สร้างผลกำไรที่สูง หวังดันอีบิทดาเพิ่ม 3 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี คาดงบการเงินปี 2568 โตกว่าปีก่อน เผยมีกระแสเงินสด "แสนล้านบาท" คงดูแลผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผลในอัตราจ่ายที่สูงกว่านโยบาย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SISB (Bloomberg Consensus 35.00 บาท) ปิดงบปี 2567 มีรายได้ 2,394.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.02% จากปีก่อน ผลจากจำนวนนักเรียนใหม่ทั้งในและต่างประเทศมีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งรับรู้รายได้จากการเปิดโรงเรียนนานาชาติ สาขาใหม่ 2 แห่ง ทั้งที่นนทบุรี-ระยอง ขณะที่บอร์ดอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 0.42 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 มีนาคม 2568 จ่ายเงินปันผลวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SAV (Bloomberg Consensus 27.00 บาท) ส่งซิก Q1/2568 ฟอร์มแจ่ม อานิสงส์ยอดเที่ยวบินพุ่ง ดันปี 2568 รายได้โต 15% จากปีก่อน รับดีมานด์ขยายตัว พร้อมเล็งประมูลงาน FOD-วิทยุการบินสยายปีกรับทรัพย์เพิ่ม แถมเปรยสนามบินนานาชาติ "เตโช กัมพูชา" เปิดให้บริการเฟสในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ดันฐานธุรกิจขยายตัว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DMT (Bloomberg Consensus - บาท) ประกาศกลยุทธ์ New Business Venture เคลื่อนธุรกิจโตอย่างยั่งยืน ลุยหาธุรกิจใหม่ ควบคู่กับประมูลโครงการ มุ่งเน้น M82 M5-พักรถริมทางหลวง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% ตามคาดการณ์ปริมาณการจราจรเฉลี่ยอยู่ที่ระดับเดียวกับปีก่อน ปี 2567 กาไรสุทธิ 899.33 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวด 0.20 บาท จ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พ.ค.นี้ (ที่มา ทันหุ้น)