วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนค่า เป็นปัจจัยหนุนลงทุนเอเซียเช้านี้

บรรยากาศลงทุนสหรัฐฯ ช่วงสั้นชะลอตัวจากหลายปัจจัย 1) การแสดงความเห็นของ CFO วอลมาร์ท บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของโลกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของพฤติกรรมผู้บริโภคและสภาวะเศรษฐกิจ
2) นักลงทุนรอติดตามผลประกอบการ NVDIA ในสัปดาห์หน้า (26 ก.พ.) 3) ความเห็นจากรายงานการประชุมเฟด ที่น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไปอีกระยะ 4) สถานการณ์ยุติสงครามยูเครนอาจยืดเยื้อหลังท่าทีสหรัฐฯ ต้องการเจรจากับรัสเซีย และตัดยุโรปออกจากการหารือ // อย่างไรก็ตาม ค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดย Dollar Index ลดลง เช้านี้ เป็นแนวโน้มบวกต่อทิศทางเงินทุนเอเซียและตลาดเกิดใหม่
BCP ทำเทนเดอร์ BSRC โดยการแลกหุ้น 1:6.5 เรามองเป็นบวกต่อแรงเก็งกำไร BSRC: ปัจจุบัน BCP ถือหุ้น BSRC อยู่ 81.7% และต้องการทำคำเสนอซื้อ (tender offer) หุ้นที่เหลืออีก 18.3% (632 ล้านหุ้น) โดยเสนอแลกหุ้นด้วยหุ้นเพิ่มทุนของ BCP ที่อัตรา 1 BCP: 6.5 BSRC ซึ่งจะทำให้ต้องออกหุ้นใหม่ BCP ประมาณ 97.2 ล้านหุ้น (ปัจจุบันมีหุ้น 1,376.92 ล้านหุ้น) หรือประมาณ 7% ของหุ้นเดิม อย่างไรก็ตามคาดไม่มีการลดทอนของกำไร (earnings dilution) เนื่องจากกำไรและผลผนึก (synergy) ที่จะเกิด // ในมุมของการเก็งกำไร เมื่อพิจารณาจากราคาปิดของ BSRC 4.94 บาท และอัตราแลกหุ้นที่ 6.5 หุ้น จะเทียบเท่าการได้หุ้น BCP ที่ราคา 32 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาปิดวานนี้ของ BCP ที่ 36.50 บาท ทำให้เราประเมิน BSRC อาจได้แรงบวกต่อการเก็งกำไร
ผลประกอบการบริษัทขนาดใหญ่วานนี้ส่วนใหญ่แย่กว่าคาด แต่โดยรวมไม่น่ากังวล: ผลประกอบการที่สำคัญ ได้แก่ TRUE -7,508 ล้านบาท (ต่ำคาดการณ์เฉลี่ยที่ -1,110 ล้านบาท), BCPG 164 ล้านบาท (ต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยที่ 386 ล้านบาท อยู่ 58%), PTT 9,312 ล้านบาท -43% QoQ, -72% YoY (ต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยที่ 9,705 ล้านบาท อยู่ 4%), BCP 17 ล้านบาท (ต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยที่ 203 ล้านบาท อยู่ 92%), COCOCO 84 ล้านบาท -51% QoQ, -56% YoY (ต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ยที่ 107 ล้านบาท อยู่ 22%) // หาก
มองในมุมเม็ดเงินกำไรที่ผิดคาดในกลุ่มหุ้นใหญ่ไม่ถือว่ามาก โดยอาจมีเพียง TRUE ที่กำไรต่ำคาดมากจากรายการพิเศษบางรายการ เรายังมองโมเมนตัมเก็งกำไรรายตัวในหุ้นกลาง-เล็ก ไม่กระทบ
การประกาศงบสัปดาห์นี้: 21 ก.พ. – AU, BEC, BANPU, CBG, CREDIT, MASTER, MAJOR / 24 ก.พ. – COM7, ERW, ICHI, KCE / 25 ก.พ. – BTG, CENTEL, CPALL, HMPRO, LA, RATCH, SAPPE, SABINA, SPALI
ภาพรวมกลยุทธ์ องค์ประกอบของดัชนี (Market breadth) ยังส่งสัญญาณถึงโอกาสฟื้นในหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นกลาง-เล็ก ที่ valuation เข้าสู่ระดับที่จูงใจต่อการลงทุน ซื้อเก็งกำไรรอบนี้เลือกหุ้นที่ลงมาเยอะในกลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, ค้าปลีก และอาหาร (เนื้อสัตว์) กลุ่มโรงไฟฟ้าใหญ่และหุ้นปันผลสูงเริ่มน่าสนใจ // DR หุ้นจีนหลายตัวน่าสนใจ // หุ้นเล็กที่น่าสนใจ: MEB, SORKON, VRANDA, NER
แนวรับ: 1,230-1,240 แนวต้าน : 1,265 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
หุ้นแนะนำ (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)
• BSRC (5.50): ราคาปิดที่ 4.94 บาท กับ swap ratio ที่ 6.5 หุ้น เทียบเท่า BCP ที่ 32 บาท ทำให้หุ้นมีโอกาสเกิด arbitrage ตัดขาดทุน 4.80 บาท
• TIPH* (24): ผลการดำเนินงานมีโอกาสได้แรงหนุนจากผลตอบแทนพันธบัตรสูง และ valuation ปัจจุบัน 8.69x PER ต่ำสุดเมื่อเทียบ BLA และ TLI ตัดขาดทุน 21.50 บาท
• BTG (20.50) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 คาดเติบโต QoQ, YoY และสูงในระดับที่ทำให้ตลาดน่าจะปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 68 ขึ้น ตัดขาดทุน 17 บาท
• TIDLOR (20): ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 คาดฟื้นตัวต่อเนื่อง หุ้นมีโอกาสฟื้นตัวจากแนวโน้มตั้งสำรองที่ลดลงและโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ตัดขาดทุน 17.50 บาท
ประเด็นที่น่าสนใจ
- สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด
- นายกฯ เรียกถกด่วนแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ยันนบข.เตรียมเสนอครม.พยุงราคาข้าว
- เกษตรฯ เล็งชง ครม.เคาะแผนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งทะเล ทวงคืนแชมป์ส่งออก
- หุ้น "อาลีบาบา" พุ่ง ขานรับผลประกอบการแกร่ง
- บทวิเคราะห์วันนี้ : BCP แนะนำ ซื้อ เป้า 45 บาท/ GFPT แนะนำ ซื้อ เป้า 13 บาท/ TRUE แนะนำ ซื้อ เป้า 14.50 บาท/ OR แนะนำ ซื้อ เป้า 16 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 ก.พ. – รายงานตัวเลขการส่งออกไทย (Jan)
26 ก.พ. – การประชุม กนง.







