วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลกลับเข้ามา มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และอาหาร อย่างไรก็ตามตลาดยังคงได้รับแรงขายกดดันจากหุ้น DELTA และมีแรงขายกดดันเพิ่มเติมในหุ้นกลุ่มไอซีที

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,257.48 จุด +1.00 จุด +0.08% มูลค่าการซื้อขาย 47,359 ลบ. Program Trading +586.89 ลบ. ต่างชาติ -3.16 ลบ. TFEX +885 สัญญา ตราสารหนี้ +828.28 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 10.26 จุด หรือ +0.02% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งรายงานการประชุมของ FED เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ +1.57% ปิดที่ 71.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่ายูเครนส่งโดรนโจมตีท่อ ส่งน้ำมันในรัสเซีย อย่างไรก็ดี รายงานข่าวเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพ เพื่อยุติสงครามในยูเครนส่งผลให้ราคาน้ำมันลดช่วงบวก
+ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ยูเครนมีสิทธิตามอธิปไตยในการตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ โดยรัสเซียไม่ประสงค์ที่จะบงการยูเครนในเรื่องนี้
+ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่าสหรัฐและรัสเซียเห็นพ้องที่จะตั้งคณะทำงานเพื่อทำการเจรจาต่อไปในการยุติสงคราม ในยูเครนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
+ ธปท. อยู่ระหว่างมอนิเตอร์และรวบรวมข้อมูลทุกด้านก่อนเสนอเข้า ที่ประชุมกนศ.พิจารณาผ่อนผัน LTV
+ BOI ไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น 19-21 ก.พ. เพื่อนำเสนอศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

ปัจจัยลบ

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า อัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 25% และภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์และเวชภัณฑ์จะอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกันหรืออาจสูงกว่านั้น
- สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 5 จุด สู่ระดับ 42 ในเดือนก.พ. ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2567 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 46

- ธปท. เปิดเผยว่ายอดหนี้ด้อยคุณภาพของธนาคารพาณิชย์ใน 4Q67 อยู่ที่ 5.5 แสนล้านบาทส่งผลให้ %NPL ปรับลดลงจาก 2.94% เหลือ 2.78% ต่อ GDP
- รัสเซียยกเลิกข้อตกลงกับยูเครนอย่างเป็นทางการในส่วนของการรับรองความปลอดภัยการเดินเรือในทะเลอาซอฟ (Azov Sea) และช่องแคบเคิร์ช (Kerch Strait) ที่ตั้งอยู่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในสัปดาห์หน้า ขณะที่ยังมีแรงขายจากปัจจัยเฉพาะตัวของหุ้น DELTA อย่างต่อเนื่อง มองกรอบดัชนี 1,250-1,265 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC, PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

ADVANC ("ซื้อเมื่ออ่อนตัว" Bloomberg Consensus 304.00 บาท)
"4Q67 กำไรสุทธิเติบโต +3.02%YoY และ +5.4%QoQ"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

•ผลประกอบการใน 4Q67 มีรายได้เท่ากับ 56,736 ล้านบาท +11.0%YoY และ +8.7%QoQ เป็นผลจากการรับรู้รายได้ TTTBB เต็มไตรมาส และรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตสอดคล้องกับความต้องการใช้ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ทั้งนักท่องเที่ยวขาเข้าและขาออก ในส่วนของ EBITDA อยู่ที่ 28,958 ล้านบาท เติบโต +20.0%YoY และ +3.2%QoQ จากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB ร่วมกับ การมุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไรและส่วนแบ่งกำไรจาก 3BBIF ส่งผลให้ ADVANC รายงานกำไรสุทธิ 4Q67 เท่ากับ 9,259 ล้านบาท +3.02%YoY และ +5.4%QoQ ตามการเติบโตของรายได้ การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และอัตรากำไรของยอดขายอุปกรณ์ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทมีกำไรสุทธิปี 67 เท่ากับ 35,075 ล้านบาท +21.0%YoY

ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการปี 68 คาดว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการเติบโตของ GDP โดย ADVANC มีความได้เปรียบในการนำเสนอบริการแบบผสมผสาน (convergence) ที่เชื่อมโยงบริการหลักเข้าด้วยกัน ประกอบกับเป็น Defensive Stock เหมาะกับการลงทุนในช่วงตลาดผันผวน ราคาปัจจุบันใกล้เคียงราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผล 5.74 ต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield 2% (XD 20/2/25)

หุ้นมีข่าว

(+) ITEL (Bloomberg Consensus 2.58 บาท) รุกขยายลงทุนจัดงบ 200 ล้านบาท อัพเกรดอุปกรณ์-รีโนเวตของเดิม ปูทางรุกงานดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมมองแนวธุรกิจปี 2568 ยืนเป้ารายได้ 3.8 พันล้านบาท เล็งโครงการเรียงคิวรับทรัพย์เติมแบ็กล็อกต่อเนื่อง เดินแผนดันบริษัทย่อย "บลู โซลูชั่น" เข้าระดมทุนตลาดหุ้น เสริมแกร่งอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) FM (Bloomberg Consensus 7.20 บาท) รับไข้หวัดนกระบาดในสหรัฐ ดันคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น รับลูกค้าเตรียมพร้อมรอติดตาม หากยืดเยื้อพร้อมสั่งเพิ่ม รับสถานการณ์ในสหรัฐ ทำให้ซัพพลายลด ส่วนราคาไก่ยังทรงตัวสูงเกินคาด แม้ผ่านตรุษจีนมาแล้ว เดินหน้าเพิ่มกำลังผลิต พร้อมดีลลูกค้าเพิ่ม รับสนใจโครงการ Jump+ ชี้มีแนวทางดันเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ANI (Bloomberg Consensus - บาท) กางแผนปี 2568 วางเป้าเติบโต 15% จากการขยายสัญญา GSA และผลิตภัณฑ์ใหม่ ชี้ปัจจัยสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ไม่กระทบ ด้านผลงานปี 2567 ทำรายได้จากการให้บริการ 8,427 ล้านบาท เติบโต 43% จากปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศทั้งปีพุ่งขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DELTA (Bloomberg Consensus 79.00 บาท) ปีนี้เดินหน้าตามแผน รับอานิสงส์การเติบโต AI ดาต้าเซ็นเตอร์โตต่อ พร้อมขยายโซลูชัน ตอบโจทย์ลูกค้าระดับโลก มองราคาหุ้นร่วงแรง จากนักลงทุนกังวลผลดำเนินงานไตรมาส 4/67 ออกมาต่ำคาด เชื่อหากความกังวลคลายราคา-ปริมาณการซื้อขายกลับสู่ภาวะปกติจากบริษัทมีพื้นฐานแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)