วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยมีแรงขายกดดันนำโดยหุ้น DELTA หลังเผยผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2567 น่าผิดหวัง ซึ่งส่งผลลบต่อดัชนีราว -26 จุด รวมทั้งหุ้น AOT ที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามมีแรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลกลับเข้ามา มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก โรงพยาบาล และธนาคาร ทำให้ดัชนีลดช่วงลบ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,256.48 จุด -15.62 จุด -1.23% มูลค่าการซื้อขาย 56,346.06 ลบ. Program Trading +2,269.02 ลบ. ต่างชาติ +4,634.67 ลบ. TFEX -23,395 สัญญา ตราสารหนี้ +1,469.72 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+/- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ตลาดน้ำมันนิวยอร์ก ตลาดทองคำนิวยอร์ก และตลาดเงินนิวยอร์ก ปิดทำการ เนื่องในวันประธานาธิบดี
+ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้าร่วมการประชุมกับบรรดาผู้ประกอบการบริษัทชั้นนำซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของทางการจีนที่มีต่อภาคเอกชน
+ ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ตลท. เตรียมนัดหารือกับ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีแผน เพิ่มกำไรบจ.ที่เข้าร่วมในโครงการจัมพ์พลัสเสนอขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีพิเศษ 2 เรื่อง สำหรับบริษัทจดทะเบียนในการยกเว้นภาษีกำไร 3 ปี และภาษีย้อนหลังกรณีควบรวมกิจการนอกตลาด – ฟื้นชีพกองทุนภาษี เดินหน้าหารือคลังลดภาษีจูงใจพร้อมเร่ง สร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย

ปัจจัยลบ

- ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของ ปูติน กล่าวว่า รัสเซีย และสหรัฐฯ ยังไม่มีการตกลงกันเกี่ยวกับการเริ่มต้นกระบวนการเจรจาสันติภาพยูเครน เนื่องจากสหรัฐฯ ยังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าคณะเจรจากับทางรัสเซีย
- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ และรัสเซียซึ่งจะมีขึ้นที่ซาอุดีอาระเบีย
- สภาพัฒน์เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทย GDP 4Q67 ขยายตัว 3.2%YoY เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ทั้งปี 67 ขยายตัว 2.5% จากการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคภาคเอกชนและภาครัฐ ขณะที่การลงทุนเอกชนลดลง 1.6%

 

- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่าไต้หวันกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดซื้ออาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากสหรัฐอเมริกา โดยหวังที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่ไต้หวันยังคง ถูกจีนกดดันทางทหารอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากปัจจัยเฉพาะตัวของหุ้นที่มี Market Cap. อย่าง DELTA และ AOT ที่มีแรงขายต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนี 1,240-1,260 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC, PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

SPA ("ซื้อ" Bloomberg Consensus 8.88 บาท)
"คาดกำไร 4Q67 เติบโต QoQ และ YoY"

•คาดกำไร 4Q67 เติบโต QoQ และ YoY โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้ 6 สาขาใหม่เต็มไตรมาส ณ ปัจจุบันมีจำนวน 77 สาขา และคาดว่าจะใช้ Loss Carry forward ที่เหลืออีก 11 ลบ. เข้ามาหนุนกำไร และจำนวนนักท่องเที่ยว 4Q67 เติบโต 10%QoQ สู่ 9.46 ล้านคน อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวจีนปรับตัวลง 17%QoQ สู่ 1.48 ล้านคนจากข่าวการลักพาตัวดาราจีนในประเทศไทย คาดว่าอัตราการทำกำไรจะทรงตัวในระดับ 33% เนื่องจากใช้ U-rate อยู่ที่ 83% ทั้งนี้ รายงานกำไร 9M67 ที่ 217 ลบ. +13%YoY

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 68 โดย Bloomberg Consensus คาดจะเติบโต 16%YoY สู่ 355 ลบ. จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเติบโตสู่ 40 ล้านคน +13%YoY เป็นตัวหนุนต่อผลประกอบการให้เติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 ม.ค.-2ก.พ. 68 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 3.96 ล้านคนเติบโต 8%YoY เป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการ 1Q68 นอกจากนี้ราคามี upside ราว 85% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) MINT (Bloomberg Consensus 37.50 บาท) เดินหน้ากลยุทธ์ Asset-Light ขยายพอร์ตโรงแรมปีนี้กว่า 54 แห่ง ครอบคลุมทั่วโลก เจาะทำเลศักยภาพทั้งญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ซาอุดีอาระเบีย พร้อมเล็งตั้งกองทรัสต์ปีนี้หวังกระแสเงินสดราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เสริมแกร่ง-ลดสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น จัดงบลงทุน 1-1.2 หมื่นล้านบาทต่อปี ปรับปรุง, ยกระดับแบรนด์โรงแรม หวังเพิ่มรายได้ต่อห้องพักต่อคืน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TU (Bloomberg Consensus 14.80 บาท)โชว์ฟอร์มแจ่มปี 2567 โกยยอดขายทะลุ 1.38 แสนล้านบาท มีกำไรแตะ 5 พันล้านบาท อานิสงส์การเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ หลังดีมานด์ใน-นอกพุ่ง แถมใจป้ำจ่ายปันผลครึ่งปีหลังอีก 0.35 บาทต่อหุ้น ปักธงยอดขาย 2.45 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PLANB (Bloomberg Consensus 9.00 บาท) วางหมาก ปี 2568 ผลงานโตต่อเนื่อง อานิสงส์ขยายฐานธุรกิจ แถมเตรียมชงบอร์ด เคาะแผนอัพแกร่งช่วงปลายกุมภาพันธ์ นี้ แถมล่าสุดจับมือ VGI เป็นตัวแทนขายสื่อในเครือทั้งหมด สยายปีกยกระดับสู่ผู้นำสื่อนอกบ้านครบวงจร (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NEO (Bloomberg Consensus 40.00 บาท) ทุ่มงบ 2,464 ล้านบาท ผนึก "ฤทธา-เมตริก" สร้าง "โรงงานแห่งอนาคต" รับดีมานด์อุตสาหกรรม FMCG โต คาดเฟสแรกเปิดดำเนินการภายในเดือนพฤศจิกายน 2569 และเฟส 2 คาดเปิดดำเนินการเดือนเมษายน 2571 หนุนกำลังผลิต 359,086 ตันต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 215,318 ตันต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 67% (ที่มา ทันหุ้น)