วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ MINT ผลประกอบการ 4Q67: กำไรหลักเติบโตทั้ง YoY และ QoQ

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ MINT ผลประกอบการ 4Q67: กำไรหลักเติบโตทั้ง YoY และ QoQ

MINT รายงานกำไรปกติใน 4Q67 อยู่ที่ 2.70 พันล้านบาท (+18.1% YoY และ +2.5% QoQ) ซึ่งเป็นตามประมาณการของเรา นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิใน 4Q67 อยู่ที่ 3.63 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าประมาณการกำไรสุทธิของเราที่ 3.92 พันล้านบาท

ผลต่างระหว่างกำไรสุทธิและกำไรปกติ หลัก ๆ มาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงมากจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยที่จำนวนดังกล่าวเป็นไปตามที่เราเคยคาดไว้ในไตรมาสนี้ โดยรวมแล้ว กำไรหลักปี 2567 อยู่ที่ 8.22 พันล้านบาท (+15.2% YoY) ในขณะที่กำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 7.75 พันล้านบาท (+43.3% YoY) ส่วนรายได้ใน 4Q67 ของบริษัทอยู่ที่ 4.05 หมื่นล้านบาท (+4.3% YoY แต่ -0.3% QoQ) หนุนจากรายได้ต่อห้องต่อคืน (RevPar) ของโรงแรมสูงขึ้น รวมถึงยอดขายโดยรวมทุกสาขา (total-system-sales: TSS) ของธุรกิจร้านอาหารและการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจของบริษัทโดยรวม แม้จะเป็นช่วง low season ในยุโรป สำหรับใน 4Q67 RevPAR ของกลุ่มโรงแรมทั้งหมดของ MINT เพิ่มขึ้น 2% YoY และสูงกว่าระดับก่อนการระบาดของ COVID-19 ถึง 45% ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของการเดินทางทั่วโลกและกลยุทธ์การขาย การกำหนดราคา และการพัฒนาแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพของ Minor Hotels สำหรับธุรกิจร้านอาหารมี TSS เพิ่มขึ้น 2.6% YoY หนุนจากการขยายสาขาและการดำเนินงานในประเทศไทยและสิงคโปร์แข็งแกร่ง ในขณะที่ยอดขายต่อร้านเดิม (SSS: same store sales) ยังคงที่ (-0.5%) เพราะการเติบโตในประเทศไทยช่วยชดเชยในร้านอาหารอื่น ๆ ที่ลดลง ในแง่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 43.6% เทียบกับ 43.1% ใน4/Q66 และ 44.4% ใน 3Q67 นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 13.0% YoY และ 17.7% QoQ อยู่ที่ 2.64 พันล้านบาท ผลดีจากการชำระหนี้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายจ่าย SG&A ต่อยอดขายสูงขึ้นที่ 32.2% ใน 4Q67 เทียบกับ 28.9% ใน 4Q66 และ 29.8% ใน 3Q67

 

 

ธุรกิจโรงแรม: RevPar เพิ่มขึ้น 9% YoY ในปี 2567

ในปี 2567 RevPAR ในกลุ่มโรงแรมทั้งหมดของ MINT เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 9% YoY และ 40% จากปี 2562 เป็นเพราะผลการดำเนินงานของโรงแรมในยุโรปและประเทศไทยแข็งแกร่ง โดยที่ ณ สิ้นปี 2567 MINT มีโรงแรมที่ลงทุนเอง 372 แห่งและมีโรงแรมและเซอร์วิส สวีทที่รับจ้างบริหารอีก 190 แห่ง ใน 58 ประเทศ มีจำนวนห้องพักและเซอร์วิส สวีททั้งสิ้น 81,344 ห้อง รวมถึงห้องพัก 55,824 ห้องที่บริษัทลงทุนเองและเช่าบริหารและ 25,520 ห้องที่บริษัทรับจ้างบริหารจัดการภายใต้แบรนด์ Anantara, Avani, Oaks, Tivoli, NH Collection, NH, Nhow และ Elewana Collection จากจำนวนทั้งหมด โดย 5,865 ห้องในประเทศไทยคิดเป็น 7% ส่วนที่เหลือเป็นห้องพักในต่างประเทศจำนวน 75,479 ห้องหรือ 93% ในอีก 57 ประเทศ ครอบคลุมทวีปเอเชีย โอเชียเนีย ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา

ธุรกิจร้านอาหาร: SSS ลดลง 2.2% YoY จากการบริโภคชะลอตัวในจีนและออสเตรเลีย

สำหรับปี 2567 ยอดขายโดยรวมทุกสาขาของ Minor Food ทั่วโลก (รวมยอดขายจากร้านแฟรนไชส์) เพิ่มขึ้น 2.1% YoY นำโดยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในประเทศไทยและสิงคโปร์ ในขณะที่ ยอดขายต่อร้านเดิมลดลงเล็กน้อยที่ 2.2% YoY เนื่องจากความท้าทายทางเศรษฐกิจมหภาคในจีนและออสเตรเลียความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอในจีนและค่าครองชีพที่สูงในออสเตรเลียส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวม

Valuation

เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 38.50 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 10.0x หรือ
เท่ากับ -0.75S.D.)
 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ MINT ผลประกอบการ 4Q67: กำไรหลักเติบโตทั้ง YoY และ QoQ

 

Risk

ความวุ่นวายทางการเมือง, เกิดโรคระบาดขั้นรุนแรง และเศรษฐกิจชะลอตัวลง