วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV ประมาณการ 4Q67F: คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะแข็งแกร่ง

คาดว่ากำไรปกติของ AAV ใน 4Q67F จะออกมาแข็งแกร่งที่ 1.41 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ อย่างไรก็ตาม บริษัทน่าจะต้องบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐใน 4Q67
เราคาดว่ากำไรปกติของ AAV ใน 4Q67F จะออกมาแข็งแกร่งที่ 1.41 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ อย่างไรก็ตาม บริษัทน่าจะต้องบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐใน 4Q67 ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิของ AAV ใน 4Q67F จะอยู่ที่ 111 ล้านบาท ตามปกติแล้วไตรมาสที่สี่จะเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบปีของ AAV เพราะเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวของไทยแข็งแกร่งตามฤดูกาล เราคิดว่า Thai Air Asia (TAA) จะสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ในระดับสูงได้ที่ 39% ในช่วงปลายปี 2567 หลังจากที่จำนวนผู้ดยสารอยู่ที่ 5.5 ล้านคน โดยที่ load factor แข็งแกร่งที่ 89% ทั้งนี้ ตลาดในประเทศยังคงเป็นตลาดหลักที่ขับเคลื่อนจำนวนผู้โดยสาร โดยมีผู้โดยสารเที่ยวบินในประเทศรวม 3.5 ล้านคน แม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมภาคเหนือตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่จำนวนผู ้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศของ TAA อยู่ที่ 2.0 ล้านคน โดยมี load factor อยู่ที่ 85% เพราะได้แรงหนุนจากการเปิดเส้นทางบินใหม่ไปยังอินเดีย, เวียดนาม, เนปาลและกัมพูชา ซึ่งเมื่ออิงตามสถิติการดำเนินงานเบื้องต้นของบริษัทใน 4Q67 จำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 5.5 ล้านคน (+8.0% YoY, +12.8% QoQ) และ มีจำนวนเที่ยวบิน 33,690 เที่ยว (+8.6% YoY, +13.6% QoQ) ในขณะที่ Load factor ของเครื่องบินที่มีการใช้งานอยู่ที่ 89% (-1.0ppt YoY, -1.0ppt QoQ) เราคาดว่ายอดขายของ AAV ใน 4Q67F จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.30 หมื่นล้านบาท (+4.7% YoY, +19.3% QoQ) เพราะจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 21.0% (จาก17.6% ใน 4Q66 และ 11.9% ใน 3Q67) เนื่องจากราคาน้ำมันเครื่องบินลดลง (18-19% YoY) ทั้งนี้ เมื่ออิงตามประมาณการ 4Q67F เราคาดว่ากำไรสุทธิของ AAV ในปี 2567F จะอยู่ที่ 3.23 พันล้านบาท ดีขึ้นอย่างมาก YoY จาก 466 ล้านบาทในปี 2566 เราคาดว่า AAV
จะพลิกเป็นมีกำไรปกติ 3.42 พันล้านบาทได้ในปี 2567F จากที่มีผลขาดทุนปกติ 206 ล้าบาทในปี 2566
ผลประกอบการใน 1Q68F มีแนวโน้มบวก
เมื่อพิจารณาจากการที่บริษัทมีกำไรจากธุรกิจหลักติดต่อกันทุกไตรมาสในปี 2567 เราจึงมองบวกกับแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในปี 2568F (จำนวนผู้โดยสาร 21.8 ล้านคน และสามารถคงค่าตั๋วไว้ที่ระดับสูงได้ที่ 2,000 บาท) สำหรับใน 1Q68F เราคิดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของบริษัทน่าจะแข็งแกร่งเพราะ i) ยังเป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยว ii) จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง iii) ทั้งค่าตั๋วและ occupancy อยู่ในระดับสูง และ iv) บริหารจัดการต้นทุนได้ดี ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลการดำเนินงานของ AAV จะแข็งแกร่งโดยมีกำไรจากธุรกิจหลัก 3.06 พันล้านบาทในปี 2568F
Valuation & Action
เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง YoY เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคา
เป้าหมายปี 2568 ที่ 3.60 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 8x)
Risks
COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพการเมืองไทยรอบใหม่ และ เกิดเหตุก่อการร้าย