วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เลือกหุ้นลงเยอะ เด้งควรแบ่งขายหุ้นธนาคารและสื่อสาร

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผสมผสาน แต่โดยรวมยังไม่มีผลเร่งให้เฟดลดดอกเบี้ย สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัว ได้แก่
1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) ม.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 143,000 ตำแหน่ง (ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 169,000 ตำแหน่ง ลดลงจาก ธ.ค.ที่ 307,000 ตำแหน่ง) 2) ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.0% (ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 4.1%) 3) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ก.พ. ร่วงลงสู่ระดับ 67.8 (ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 71.3 และลดลงจาก ม.ค.ที่ 71.1) 4) คาดการณ์เงินเฟ้อ 1 ปี ข้างหน้า 4.3% (สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 3.3% และเพิ่มขึ้นจากนม.ค.ที่ระดับ 3.3%) // โดยรวมแม้เริ่มมีสัญญาณชะลอของกำลังซื้อ แต่ตัวเลขการว่างงานที่ยังปรับลดลง บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ และทำให้เฟดอาจยังไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
สหรัฐฯ อาจประกาศมาตรการเก็บภาษีวงกว้างกับหลายประเทศวันนี้: ประธานาธิปดีทรัมป์วางแผนประกาศมาตรการภาษีตอบโต้หลายประเทศในวันนี้ (10 ก.พ.) โดยมีรายงานถึงความเสี่ยงที่อาจมีการประกาศเก็บภาษีเหล็กกล้าและอลูมิเนียม ขึ้น 25% ทั้งนี้สหรัฐฯ นำเข้าเหล็กกล้ามากสุดจาก 5 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา, บราซิล, เม็กซิโก, เกาหลีใต้ และเวียดนาม ทำให้ประเมินผลกระทบต่อไทยจำกัด อย่างไรก็ตามอาจต้องรอติดตามว่าจะมีการประกาศเก็บภาษีสินค้าอื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่
ในเชิงกลยุทธ์ยังระวังแรงทำกำไรกลุ่มธนาคาร ติดตามการรายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้: ในทางกลยุทธ์มองเป็นจังหวะขายทำกำไรกลุ่มพลังงาน ซึ่งรับปัจจัยบวกทั้งจากผลประกอบการและการจ่ายปันผลที่จะประกาศช่วงปลาย ก.พ. ไปพอสมควรแล้ว ขณะที่การประกาศ GDP ไตรมาส 4/67 วันที่ 17 ก.พ. อาจกดดันต่อการปรับลดประมาณการ GDP ปี 2568 // หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ที่คาดรายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้ ได้แก่ 10 ก.พ. – GULF, INTUCH / 11 ก.พ. – OR / 13 ก.พ. – AOT, GLOBAL, ITC, VGI / 14 ก.พ. – BTS, DELTA, MINT, TOP //
ภาพรวมกลยุทธ์ ฟื้นตัวหลังลงมาถึงโซนลุ้นแถว 1,250 การปรับขึ้นสัปดาห์นี้ควรแบ่งทยอยขายทำกำไรธนาคารและสื่อสาร ซื้อเก็งกำไรรอบนี้เลือกหุ้นที่ลงมาเยอะในกลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, ค้าปลีก และอาหาร (เนื้อสัตว์) กลุ่มโรงไฟฟ้าใหญ่และหุ้นปันผลสูงเริ่มกลับมาน่าสนใจ // DR หุ้นจีนหลายตัวน่าสนใจ
แนวรับ: 1,270 แนวต้าน : 1,310-1,320 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
หุ้นแนะนำ (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)
• OSP (18): ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 คาดทรงตัว แต่ราคาปรับลดลงแรง จนซื้อขายเพียง 16x PER ขณะที่ให้ผลตอบแทนปันผลประมาณ 5% ตัดขาดทุน 14.50 บาท
• BAM* (6.50): ราคาปัจจุบันซื้อขายเพียง 0.43x PBV และ 12x PER คาดผลตอบแทนปันผลที่ 5.5% ตัดขาดทุน 5.35 บาท
• M (20) : ราคาที่ปรับลดลงสะท้อนผลประกอบการที่ชะลอตัวไปแล้ว บริษัทปลอดหนี้ กระแสเงินสดอิสระที่ประมาณ 15% ทำให้มีโอกาสจ่ายปันผลสูง ตัดขาดทุน 16.00 บาท
• CPN (60) : ราคาปรับลดลงจนซื้อขายเพียง 13.81x PER ขณะที่ผลประกอบการ ตัดขาดทุน 50 บาท
ประเด็นที่น่าสนใจ
- "ทรัมป์" เตรียมประกาศรีดภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% จากทุกประเทศวันนี้
- "ทรัมป์" เตรียมประกาศใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ ชี้จะกระทบ "ทุกคน"
- สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตร +143,000 เดือนม.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์
- ดัชนี CPI จีนเร่งตัวแตะไฮในรอบ 5 เดือนในม.ค. แต่ PPI ยังติดลบ
- เฟดเผยแนวทาง Stress Test ปี 68 เน้นทดสอบผลกระทบแบงก์ใหญ่ปล่อยกู้ภาคอสังหาฯ
- ไทยถกผู้นำเข้าจีนแสวงหาโอกาสในการขายสินค้าเกษตรเพิ่มเติม
- CPALL แจงดีลร่วมทุนค้าปลีกญี่ปุ่น ยังไม่มีความคืบหน้า
- MOTHER พร้อมลั่นระฆังเทรดตลาด mai 11 ก.พ.นี้
- ADVANC ปันผลในอัตรา 5.74 บ./หุ้น XD 20 ก.พ.
- บทวิเคราะห์วันนี้ : ADVANC แนะนำ ซื้อ เป้า 330 บาท/ TIDLOR แนะนำ ซื้อ เป้า 22 บาท/ MINT แนะนำ ซื้อ เป้า 38 บาท/ PTT แนะนำ ซื้อ เป้า 36 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 ก.พ. – US Inflation Rate (Jan)