วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Rebound

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Rebound

วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยมีแรงขายกดดันในหุ้น DELTA จากความกังวล กลต. เสนอให้มีการจำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวในดัชนี SET50/SET100 ประกอบกับมีแรงขายเพิ่มเติมในหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และอสังหาฯ

ขณะที่นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,286.74 จุด -14.28 จุด -1.10% มูลค่าการซื้อขาย 42,226.09 ลบ. Program Trading -67.57 ลบ. ต่างชาติ +553.52 ลบ. TFEX -6,914 สัญญา ตราสารหนี้ +6,820.01 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 317.24 จุด หรือ +0.71% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวกเช่นกัน หลังจากนักลงทุนมองข้ามปัจจัยลบเกี่ยวกับสงครามการค้าและผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทอัลฟาเบท (Alphabet) และหันไปให้ความสนใจกับแนวโน้มที่ FED จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในเดือนม.ค.
+ ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
+ จีนจะเพิ่มความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายกับประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อกวาดล้างการพนันออนไลน์ และการฉ้อโกงทางด้านโทรคมนาคม
+ ธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ใน 1Q68
+ เร็วๆ นี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสอง
+/- กกร. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวจำกัดการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงและทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง คงประมาณการ GDP ในปี 2568 ที่ระดับ 2.4-2.9% มูลค่าการส่งออกขยายตัว 1.5-2.5% และอัตราเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นสู่ 0.8-1.2%

ปัจจัยลบ 

 

 

- สัญญา WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.67 ดอลลาร์ หรือ -2.3% ปิดที่ 71.03 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์พุ่งขึ้นมากกว่าคาดบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของอุปสงค์พลังงาน และ นักลงทุนยังกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะส่งผลให้เศรษฐกิจอ่อนแอลง
- ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนม.ค. จากระดับ 54.0 ในเดือนธ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.2 เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวลง
- สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า พุ่งขึ้น 24.7% สู่ระดับ 9.84 หมื่นล้านดอลลาร์ใน เดือนธ.ค. 2567 สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้น 3.5% สู่ระดับ 3.649 แสนล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการส่งออกลดลง 2.6% สู่ระดับ 2.665 แสนล้านดอลลาร์
- ไปรษณีย์สหรัฐฯ (USPS) ประกาศระงับการรับพัสดุขาเข้าจากจีนและฮ่องกงเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง
- จีนคัดค้านแนวคิดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่จะเข้าควบคุมฉนวนกาซา หลังจากที่ผลักดันให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออก จากดินแดนดังกล่าวเพื่อไปอาศัยอยู่ในประเทศอียิปต์และจอร์แดน
-ตลท.เปิดเฮียริ่งเกณฑ์ คัดเลือกหุ้นเข้า SET50-SET100 เพื่อลดผลกระทบ ของดัชนีจากหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ และทำให้ดัชนีมีการกระจายตัว ของน้ำหนักหลักทรัพย์ที่เหมาะสมมากขึ้น โดย"จำกัดน้ำหนัก" ให้ไม่เกิน 10% แทนเกณฑ์มาร์เก็คแคปส่งผลให้มีแรงขายหุ้นมาร์เกตแคปสูงแต่ฟรีโฟลทต่ำ

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ระยะสั้น หลังปรับตัวลงจากแรงขายหุ้น DELTA จากปัจจัยเฉพาะตัว นักลงทุนยังติดตามการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนี 1,280-1,290 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN

 

• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• Sentiment เชิงบวกจาก บ้านเพื่อไทย : CK STECON CRD
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO

หุ้นรายงานพิเศษ  

CREDIT "ซื้อ"
(ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 26.12 บาท upside 36%)

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Rebound

•ปี 2024 CREDIT ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งกำไรสุทธิ 3,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%YoY และ ยอดสินเชื่อรวมที่ 163,159 ล้านบาท +13%YoY

•สินเชื่อเติบโตสูงในส่วนของสินเชื่อบุคคล +126%YoY จากฐานต่ำในปีก่อนหน้า จากฐานลูกค้าผลิตภัณฑ์ “ตังค์โต” ที่เติบโตสูง 81% เป็น6.4 หมื่นล้านรายและ ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายทรูมันนี่

•ด้านคุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับดี มี %NPL เท่ากับ 4.4% เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.2% ในปี 2023 แต่ยังอยู่ภายใต้กรอบเป้าหมายที่ระดับไม่เกิน 4.5% สาเหตุที่ %NPL เพิ่มขึ้นจากมูลค่าขาย NPL ราว 1,900 ล้านบาทต่ำาว่าเป้าขาย 2,700 ล้านบาท

ความเห็น เรามีมุมมองบวกจากศักยภาพในการเติบโตของสินเชื่อโดยมีเป้าสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง 2 หลัก NIM ทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นสู่ 8.5-9.0% จากระดับ 8.6% ในปี 2023 ส่วนเป้า credit cost 2.5-3% เทียบกับ 2.65% ในปี 2024 ที่ลดลงจาก 2.94% ในปี 2023 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 2025 เฉลี่ย 4,081 ล้านบาท เติบโต 13%YoY ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/BV 1.12x ต่ำกว่าระดับ 1.3x ซึ่ง เป็นค่าเฉลี่ยของกลุ่ม finance ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน และยังมี upside จึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) AWC (Bloomberg Consensus 4.40 บาท) บีโอไอ อนุมัติส่งเสริมลงทุน โครงการ "Jurassic World: The Experience" แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ปั้นเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก สนับสนุนภาคท่องเที่ยวไทย เผยยอดส่งเสริมลงทุนกิจการกลุ่มท่องเที่ยวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กว่า 200 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BAFS (Bloomberg Consensus 19.75 บาท)มั่นใจปริมาณเติมน้ำมัน Jet A-1 ทั้งปี 2567 ทะลุ 5 พันล้านลิตร ขนส่งทางท่อแตะ 1.1 พันล้านลิตร ตามเป้า มั่นใจไตรมาส 1/2568 โตต่อสะท้อนจากปริมาณเติมน้ำมันเฉลี่ยต่อวันพุ่งแตะ 16 ล้านลิตร สูงกว่า 15 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อไตรมาส 4/2567 ที่ผ่านมา ตั้งเป้าทั้งปีเติมน้ำมันที่ 5.4 พันล้านลิตร เดินหน้า SAF พร้อมรองรับดีมานด์ตลาด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SUSCO (ราคาเหมาะสม 3.10 บาท) ตั้งเป้าผลงาน ปี 2568 ยอดขายน้ำมันโต 10% ด้านธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD มียอดขายในไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้น รับอานิสงส์งาน "Motor Expo 2024" เตรียมเปิด SUSCO SQUARE สาขาปิ่นเกล้า ในไตรมาสที่ 2/2568 ขณะที่ได้วางงบลงทุน 450 ล้านบาท เร่งขยายสาขาปั๊มน้ำมัน SUSCO เพิ่มขึ้นอีก 7-8 สาขา และเดินหน้าซื้อหุ้นคืนต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SIRI (Bloomberg Consensus 2.10 บาท)กางแผนปี 2568 ตั้งเป้ายอดขาย 5.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 6% และมียอดโอน 4.6 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% พร้อมวางแผน เปิด 29 โครงการใหม่ มูลค่า 5.2 หมื่นล้านบาท เน้นบุกตลาดพรีเมียม และขยายพอร์ตคอนโดในเมืองเพิ่มขึ้น ชูแบ็กล็อก 1.4-1.6 หมื่นล้านบาท แถมวางงบลงทุนซื้อที่ดิน 2,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)