วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนี Rebound ในช่วงเช้า โดยมีแรงหนุนจากทรัมป์ชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก และแคนาดา อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวลง หลังจีนออกมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ตอบโต้สหรัฐที่ยังคงเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน
ทำให้นักลงทุนมีความกังวลสงครามการค้า มีแรงขายมาก ในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และค้าปลีก มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มธนาคาร และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,301.02 จุด -3.37 จุด -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 41,678.41 ลบ. Program Trading -104.02 ลบ. ต่างชาติ +684.42 ลบ. TFEX +16,461 สัญญา ตราสารหนี้ -2,653.09 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 134.13 จุด หรือ +0.30% เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองบวกว่าจีนและสหรัฐฯ อาจจะบรรลุข้อตกลง ทางการค้าร่วมกันได้เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯบรรลุข้อตกลงกับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งทำให้ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ชะลอการ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก
+ ครม.อนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. กว่า 3.4 แสนล้านบาท เร่งเฟสแรก กทม.-โคราช หลังคืบหน้า 35.74%
+ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการส่งออกของไทยในปี 2567 มีมูลค่า 300,529.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 5.4%YoY มูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 10,548,759 ล้านบาท ขยายตัว 7.3%YoY
+ ทำเนียบปธน.อิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า อิสราเอลจะส่งคณะตัวแทนเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ระยะที่ 2 ที่กรุงโดฮา
+ ที่ประชุมครม. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. ...เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก (Financial Hub) และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ปัจจัยลบ
- สัญญา WTI ปิดลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากจีนและสหรัฐฯ เปิดฉากการ ทำสงครามการค้า อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงลบหลังจาก มีรายงานว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯออกมาตรการ กดดันอิหร่าน เพื่อให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลงเหลือศูนย์
- กระทรวงการคลังจีนประกาศว่าจีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับ ใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ ลดลง 0.9%MoM ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.7%MoM หลังจากลดลง 0.8%MoM ในเดือนพ.ย.
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนมีมุมมองบวกว่าจีนและสหรัฐ อาจจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกันได้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนี 1,295-1,310 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• Sentiment เชิงบวกจาก บ้านเพื่อไทย : CK STECON CRD
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
หุ้นรายงานพิเศษ
INTUCH "ซื้อ" (Bloomberg Consensus 107.70 บาท)
"การควบรวมกับ GULF คาดจะแล้วเสร็จภายใน 2Q68"
•บริษัทมีกำไรสุทธิ 3Q67 เท่ากับ 3,459 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และ +6%YoY ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของ ส่วนแบ่งผลกำไรจาก ADVANC จากการรับรู้รายได้ของ TTTBB และการเติบโตปกติของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการเติบโตของ ARPU และจำนวนเลขหมายที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการมุ่งเน้นบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนั้นใน 3Q67 INTUCH มีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน ในโครงการ InVent ( เป็นโครงการลงทุนใน Venture Capital) จำนวน 31 ล้านบาท
•ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 4Q67 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต QoQ และ YoY ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่แข็งแกร่ง และ บริหารต้นทุนด้านเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเติบโตได้ตามเศรษฐกิจที่มีโอกาสขยายตัวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ตอบรับมาตรการของภาครัฐ และการเบิกจ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงท้ายของงบประมาณปี 67 ขณะที่การควบรวมกับ GULF คาดจะแล้วเสร็จภายใน 2Q68 แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) PTG (ราคาเหมาะสม 10.00 บาท) ชี้เก็บภาษีคาร์บอนจากราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิด ไม่กระทบบริษัททำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เหตุแค่การโยกการจัดภาษีสรรพสามิต พร้อมเดินหน้าปลูกป่าต่อเนื่อง-ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เผยช่วงไตรมาส 1/2568 ลุยจัดโปรดึงคนเข้าปั๊มมากขึ้น หวังปริมาณขายน้ำมันปีนี้โต 8-10%-เปิดรับพาร์ตเนอร์ขยายธุรกิจนอนออยล์ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SYNEX (Bloomberg Consensus 17.40 บาท) รับอานิสงส์ อีซี่ อี-รีซีท ดันยอดขายอุปกรณ์ไอที-มือถือโตเด่น เตรียมชงบอร์ดเคาะแผนดำเนินงานปี 2568 เดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งซิกมีรายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2567 รับดีมานด์ขยายตัวเด่น แถมล่าสุดร่วมมือ Lexmark ปูทางต่อยอดธุรกิจเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) EGCO (Bloomberg Consensus 128.00 บาท) เผยได้ขายหุ้นทั้งหมดในโรงไฟฟ้าพลังงานลม Boco Rock ประเทศออสเตรเลีย คาดดีลเสร็จไตรมาส 1/2568 ออสเตรเลีย เป็นส่วนหนึ่งของ กลยุทธ์ "Triple P" ด้านการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน เล็งหาดีลลงทุนใหม่เพิ่มเติม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 3.88 บาท) รับผลดี ครม. เร่งคลอดนโยบายติดโซลาร์รูฟท็อป-กระทรวงพลังงาน ตั้งท่าชงเคาะลดหย่อนภาษีนิติบุคคล เชื่อจูงใจภาคธุรกิจใช้พลังงานสะอาด ส่วนดีมานด์ภาคครัวเรือนเติบโตต่อเนื่องเข้าทาง GRoof อ้ารับโอกาสขยายฐานลูกค้า ย้ำเป้ารายได้ 2568 แตะหมื่นล้านบาท ล่าสุดได้งาน EPC สายส่ง 500 กิโลโวลต์ หนุนแบ็กล็อกที่ 4 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)