วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector การบริหารเปลี่ยนเป็นการบริหารเงินกองทุนเพื่อเพิ่ม ROE

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector การบริหารเปลี่ยนเป็นการบริหารเงินกองทุนเพื่อเพิ่ม ROE

GDP ที่คาดว่าจะโตลดลงในปี 2568F จะจำกัดโอกาสในการเติบโต ถึงแม้ว่าสินเชื่อจะฟื้นตัวขึ้นใน 4Q67 แต่อัตราการขยายตัวของสินเชื่อในปี 2567 ยังคงอยู่ที่ -0.8%

โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่โตเกือบ 2% สินเชื่อรายย่อยทรงตัว แต่สินเชื่อ SME หดตัวลง โดยสินเชื่อเช่าซื้อ
มีสัญญาณฟื้นตัว  ในแง่ของ LOS และ credit cost ที่ลดลงใน 4Q67 ซึ่งบ่งชี้ว่า ผลตอบแทนน่าจะดีขึ้นใน
ปี 2568F ซึ่งจะส่งผลดีต่อธนาคารที่มีการปล่อยกู้สินเชื่อ H/P ในระดับสูงอย่างเช่น KKP, TISCO และ TTB การโตสินเชื่อสะท้อนนโยบายการปล่อยกู้เป็นเข้มงวด และเน้นบริหารหนี้เสียที่และค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) ทั้งนี้ การที่ธนาคารใหญ่ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP ปี 2568F ลงเหลือ 2.4% (จาก 2.6-2.7% ในปี 2567F) แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อในปี 2568F จึงน่าจะเป็นเช่นเดียวกับในปีที่แล้ว

กลยุทธ์การบริหารจัดการเงินกองทุนจะทำให้มีการปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผล

การปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP ทำให้ธนาคารปรับกลยุทธ์เป็นการบริหารจัดการต้นทุนดำเนินงาน และ การใช้เงินกองทุนเพื่อเพิ่ม ROE แทน ทั้งนี้ เนื่องจากธนาคารต่าง ๆ มีเงินกองทุนขั้นที่ 1 ส่วนเกินอยู่ ซึ่งจะทำให้ธนาคารพิจารณาปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดปี 2567F โดยในส่วนของ TISCO, SCB และ TTB ได้ปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลเป็นเกือบ 70-80% แล้ว ซึ่ง ณ จุดนี้ เราคิดว่า KTB และ KBANK น่าจะปรับตาม ในขณะที่เรามองว่า BBL มีโอกาสปรับน้อยกว่า

 

 

 

CET1 ส่วนเกินเป็นสิ่งที่แสดงว่า KTB และ KBANK น่าจะปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล

CET1 ของธนาคารต่าง ๆ ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเกือบ 17.5% (figure 3) ซึ่งถือว่ามากเกินไป
เพราะสูงกว่าเกณฑ์ CET1 ขั้นต่ำที่ 8% และ เกณฑ์เงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier I) ขั้นต่ำที่ 9.5% ถึงเกือบสอง
เท่า ทั้งนี้ CET1 เพิ่มขึ้นอย่างมากในธนาคารที่อัตราการจ่ายเงินปันผลต่ำอย่างเช่น KTB (33%) KBANK
(36%) และ BBL (32%) ในขณะที่การปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP กดดันต่อสินทรัพย์ที่ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง (RWA) โตต่ำใกล้ศูนย์ในปี 2567 (จากในอดีตที่โต 3-5%) ทำให้ CET1 ของธนาคารต่าง ๆ เพิ่มขึ้นปีละ 1-1.4% ซึ่งเกินความจำเป็น และ กดดัน ROE

น่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลเป็น >50% เพิ่มเพิ่ม ROE ให้ >10% ในระยะยาว

เราได้ทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหว (sensitivity) ของ ROE ที่เพิ่มขึ้นกับการปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลจาก 30-80% โดยการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลทุก ๆ 10% จะทำให้ ROE เพิ่มขึ้น 0.15-0.18% ซึ่งและทำให้ CET 1 ลดลง 0.20-0.25% ทำให้อัตราการจ่ายเงินปันผลสามารถขึ้นไปจนถึง 80% ณ จุดนี้ เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2568 3% และ ปรับเพิ่ม TP-68F ของ KTB เป็น 26.25 บาท (จากเดิม 23.4 บาท)

Risks

NPLs เพิ่มขึ้น และ ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น, รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง และ ผลขาดทุน FVTPL จากการลงทุน.

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector การบริหารเปลี่ยนเป็นการบริหารเงินกองทุนเพื่อเพิ่ม ROE

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector การบริหารเปลี่ยนเป็นการบริหารเงินกองทุนเพื่อเพิ่ม ROE

 

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector การบริหารเปลี่ยนเป็นการบริหารเงินกองทุนเพื่อเพิ่ม ROE

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector การบริหารเปลี่ยนเป็นการบริหารเงินกองทุนเพื่อเพิ่ม ROE

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Bank Sector การบริหารเปลี่ยนเป็นการบริหารเงินกองทุนเพื่อเพิ่ม ROE