วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CRC ประมาณการ 4Q67F: เป็นช่วง Peak ตามฤดูกาล

CRC กลับมาเปิดให้บริการห้างเซ็นทรัลชิดลมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 หลังจากที่ปรับปรุงห้างเสร็จเรียบร้อย โดยบริษัทตั้งเป้าให้เซ็นทรัลชิดลมเป็นห้างสรรพสินค้าระดับหรู
สำหรับสินค้าที่มีเอกลักษณ์ และ บริการที่ดีเลิศโดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และ วัยของลูกค้าที่แตกต่างกันไป
ได้แก่ i) Cenfinity และ Wealth&premium, ii) กลุ่มครอบครัว และ เด็ก (family&kids) iii) Gen Y และ Gen Z และ iv) นักท่องเที่ยว และ ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย (Tourist&Expat) ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 30%, จำนวนลูกค้าเข้าห้างจะเพิ่มขึ้น 15% และ สัดส่วนยอดขายจากกลุ่ม tourist&expat ที่ 20%
ประมาณการ 4Q67: เป็นช่วง peak ตามฤดูกาล
เราคาดว่ากำไรปกติของ CRC ใน 4Q67F จะอยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท (-4% YoY, +71% QoQ) โดยกำไรที่ลดลงเล็กน้อย YoY จะเป็นเพราะค่าใช้จ่ายภาษีต่ำเป็นพิเศษใน 4Q66 ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะผลจากปัจจัยฤดูกาล ซึ่งจะทำให้กำไรปกติในปี 2567F อยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท (+3% YoY) สูงกว่าประมาณการกำไรเต็มปีของเรา 5%
ยอดขายดี นำโดยกิจการในประเทศไทย
เราคาดว่ารายได้รวมใน 4Q67F จะอยู่ที่ 6.3 หมื่นล้านบาท (+3% YoY, +8% QoQ) นำโดยกิจการในประเทศไทย โดยเฉพาะในหมวดแฟชั่น และ อาหาร ซึ่งคาดว่า same-store-sales growth (SSSG) จะเป็น
บวกที่ประมาณ 3-4% ใน 4Q67 เนื่องจากเป็นช่วง peak ตามฤดูกาล และ กลับมาเปิดให้บริการห้างเซ็นทรัลชิดลม ซึ่งเป็นห้าง flagship ของบริษัทอย่างเป็นทางการ เราคาดว่า Same-store-sales ของกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ น่าจะยังลดลง โดยเฉพาะหมวด hardline ในเวียดนาม (คาดว่า same-store-sales จะหดตัวในระดับสองหลักสูง ๆ)
อัตรากำไรขั้นต้นดี
เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q67F จะอยู่ที่ 29.9% (+20bps YoY, +160bps QoQ) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2567F อยู่ที่ 28.6% (-10bps YoY) โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นใน 4Q67F จะมาจาก margin จากการขายสินค้าที่อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 27.9% (+20bps YoY, +160bps QoQ) เพราะสัดส่วนยอดขายสินค้าหมวดแฟชั่นสูงขึ้นในช่วง peak ตามฤดูกาล เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายใน 4Q67F จะอยู่ที่ 29.8% (จาก 30.0% ใน 4Q66 และ 29.7% ใน 3Q67) จากการคุมต้นทุน
Valuation & action
เรามองว่าราคาหุ้นอาจจะวิ่งขึ้นได้แรงจากผลประกอบการที่ดีใน 4Q67F และ ภาวะตลาดที่เป็นบวกใน1Q68F จากมาตรการกระตุ้น Easy e-Receipt ของรัฐบาล เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 36.00 บาท อิงจาก PER เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ 24.0x (กลุ่มแฟชั่นที่ 24.0x, กลุ่มอาหารที่ 28.0x และ กลุ่ม hardline ที่ 20.0x)
Risks
การแข่งขันเข้มข้นมากขึ้น, เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ความชอบของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป, ความเสี่ยงด้าน
กฎเกณฑ์ของทางการ, ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน







