วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound ต่อ

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ตามทิศทางตลาดต่างประเทศได้แรงหนุนจาก “ทรัมป์” ยังไม่รีบดำเนินมาตรการตั้งกำแพงภาษี ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลสงครามการค้า ขณะที่เงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ Fund Flow ไหลกลับเข้ามา มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่ม Big-Cap
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,352.53 จุด +12.03 จุด +0.90% มูลค่าการซื้อขาย 38,004.05 ลบ. Program Trading +284.38 ลบ. ต่างชาติ +170.36 ลบ. TFEX +5,733 สัญญา ตราสารหนี้ +4,154.75 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 537.98 จุด หรือ +1.24% โดยทั้งดาวโจนส์ และ S&P 500 ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรแบบครอบจักรวาล หรือ Universal Tariffs อย่างที่ตลาดวิตกกังวลก่อนหน้านี้
+ โกลด์แมน แซคส์ปรับลดการคาดการณ์โอกาสที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบครอบจักรวาลลงเหลือ 25% จาก 40%ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนธ.ค.
+ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าระหว่าง 1-19 มกราคม 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยแล้ว 2,139,901 คน สร้างรายได้ประมาณ 107,376 ล้านบาท
+ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.0% ใน 4Q67
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.99 ดอลลาร์ หรือ -2.56% ปิดที่ 75.89 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมัน ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปีนี้
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาอาจจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.พ.
- ทำเนียบขาวประกาศ ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งบริหารให้ถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเป็นไปตามคำสัญญาในช่วงหาเสียงของเขาที่จะต่อต้านองค์การระหว่างประเทศ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ต่อ โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการของหุ้นธนาคารที่แข็งแกร่งกว่าตลาดคาด ประกอบกับนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,345-1,360 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL
• Chat with Tony : VGI BTS BEM GULF INTUCH
• Sentiment เชิงบวกจาก บ้านเพื่อไทย : CK STECON CRD
หุ้นรายงานพิเศษ
BDMS "ซื้อ" (Bloomberg Consensus 34 บาท)
มี Upside 43%
•(0) คาดแนวโน้มกำไร 4Q67 หดตัว QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลหลังผ่านพ้นช่วงหน้าฝน แต่ยังคงเติบโต YoY แม้ฐานสูงช่วงปลายปีก่อนที่มีโรคระบาด โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของ รพ.ในจังหวัดท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่ พัทยา และ ภูเก็ต เป็นต้น ตามจำนวนนักท่องเที่ยวตางชาติใน 4Q67 ที่เติบโตดีสู่ 9.5 ล้านคน +10%YoY +17%QoQ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไร 4Q67 ราว 4,119 ลบ. +4%YoY -3%QoQ จาก 3Q67 ที่มีกำไร 4,246 ลบ. +9%YoY +27% และ 9M67 มีกำไร 11,654 ลบ. +12%YoY
•(0/+) ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มกำไร 4Q67 ที่คาดอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน แต่มองบวกต่อแนวโน้มการเติบโตระยะยาวจากความพร้อมของ Capacity ในการรองรับผู้ป่วย การขยายรพ.ใหม่ 3 แห่งในปี 68 ตั้งเป้าผู้ประกันตน 1 ล้านรายในปี 68 (ปัจจุบัน 9.2 แสนราย) และการขยายฐานผู้ป่วยในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จาก Medical Tourism อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นมี Sentiment เชิงลบจากข่าวที่ชาวจีนยกเลิกเที่ยวในไทยเนื่องจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย (มีสัดส่วนรายได้จากชาวจีน 2%) ส่วนประเด็น Co-payment เกี่ยวกับ Simple Diseases เรามองเป็นกลางเนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มดังกล่าวเพียงเล็กน้อย 2-3% ของรายได้รวม และไม่ใช่ทุกรายได้ที่เกิด Overclaim ขณะเดียวกันประกันรูปแบบดังกล่าวมีค่าเบี้ยที่ถูกกว่าแบบเหมาจ่าย จึงเป็นโอกาสขยายฐานลูกค้าประกัน ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67-68 ราว 15,846 ลบ. +10%YoY (9M67 คิดเป็น 74%) และ 17,225 ลบ. +9%YoY ตามลำดับ ส่วนราคาเหมาะสม 34 บาท มี Upside 43% นอกจากนี้ ปัจจุบันซื้อขายที่ PE เพียง 24x ต่ำกว่าระดับ 38x (-1SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี) แนะนำ "ซื้อ"
หุ้นมีข่าว
(+) STA (ราคาเหมาะสม 18.70 บาท) ปลื้มปริมาณน้ำยางพาราปี 2568 เพียงพอ จับตาความต้องการใช้ยางมาตรการ EUDR ทั้งยังมีมาตรการกีดกันทางภาษีระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีน หนุนกลุ่มธุรกิจถุงมือยาง มั่นใจปริมาณขายทั้งปี 2568 ทะลุ 1 ล้านตัน เติบโตจากปี 2567 ทั้งยังได้อานิสงส์ราคายางในตลาดโลกทรงตัวขาขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PLUS (Bloomberg Consensus 5.80 บาท) ตั้งเป้าหมายปี 2568 รายได้แตะ 2,580 ล้านบาท เหตุยอดขายน้ำมะพร้าวโต 70-80% มุ่งส่งออกไปจีน หลังดีมานด์พุ่ง เผยกลางไตรมาส 1/68 เตรียมรับรู้รายได้เพิ่มจากลูกค้ารายใหญ่ 4 ราย เชื่อไร้ผลกระทบนโยบายทรัมป์ พร้อมศึกษาแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ชัดกลางปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PIMO (Bloomberg Consensus - บาท) ปักเป้ารายได้ปี 2568 โต 10% แตะ 1.25 พันล้านบาท วางกลยุทธ์ขยายตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา เล็งส่งสินค้าใหม่ป้อนดูไบ และซาอุดีอาระเบีย กลางปีนี้ พร้อมพัฒนามอเตอร์ BLDC รองรับความต้องการทั่วโลก (ที่มา ทันหุ้น)
(+) WPH (Bloomberg Consensus - บาท) ปักธงปี 68 คาดรายได้จะเติบโต 15-20% หนุนกำไรออลไทม์ไฮต่อจากปี 67 อานิสงส์ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ตามการท่องเที่ยวที่ดีต่อเนื่อง บวกรับรู้รายได้เพิ่มจากบริการใหม่ดันมาร์จิ้นสูง นอกจากนี้เริ่มรับผู้ป่วยประกันสังคมแล้วที่ “รพ.วัฒนแพทย์ สมุย” หนุนผลงานปี 68 สดใส (ที่มา ข่าวหุ้น)