วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยช่วงเปิดตลาดดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดราว 10 จุด ได้แรงหนุนจากสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สอดคล้องคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลด อัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น
มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก และไอซีที แต่มีแรงขายนำโดยหุ้น DELTA และ MASTER เป็นปัจจัยกดดันดัชนี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,352.56 จุด -0.61 จุด -0.05% มูลค่าการซื้อขาย 40,377.07 ลบ. Program Trading -1,414.35 ลบ. ต่างชาติ -1,239.61 ลบ. TFEX +5,466 สัญญา ตราสารหนี้ -689.97 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4%MoM ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย. และเมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 4.1% ใน เดือนพ.ย.
+ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี ความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 47 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 45
+ ตลท. รับมาตรการซื้อขายหุ้นต้องทบทวนยกชุดหลังประกาศใช้เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาดหุ้นไทย ส่วน "อัปติ๊ก" จะยกเลิกไปเลยต้องดูว่า มีประโยชน์ตลาดหุ้นปกติหรือไม่ อาจจะปรับไปใช้เฉพาะหุ้นรายตัวที่ราคาหุ้นผันผวนสวนทางกับพื้นฐานซื้อขาย
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 68.42 จุด หรือ -0.16% โดยตลาดอ่อนแรงลงหลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพุธ ขณะที่นักลงทุนประเมินรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 78.68 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มฮูตีซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเยเมนอาจจะยุติการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง
- หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.หลังจากคำสั่งแบน ติ๊กต๊อกในสหรัฐฯ มีผลแล้วนั้น กำลังพิจารณาการออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อระงับการบังคับใช้คำสั่งแบนติ๊กต๊อกเป็นเวลา 60-90 วัน
- ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในปาเลสไตน์เปิดเผยว่า อิสราเอลได้เพิ่ม ความเข้มข้นในการโจมตีฉนวนกาซาภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังประกาศข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน ขณะที่ตัวกลางกำลังพยายามยุติ การสู้รบก่อนข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลในวันอาทิตย์นี้
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า แคนาดา กำลังพิจารณามาตรการทางภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ที่อาจครอบคลุม สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่าสูงถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา (1.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด ขณะที่ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติยังไหลออกต่อเนื่อง กรอบดัชนีที่ 1,345-1,360 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL
• Chat with Tony : VGI BTS BEM GULF INTUCH
หุ้นรายงานพิเศษ
TISCO "ถือรับเงินปันผล"
(ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 100 บาท)
"กำไรปี 67 -6%YoY"
•งวด 4Q67 มีกำไรสุทธิ 1,702 ล้านบาท -4%YoY ทรงตัว QoQ กำไรสุทธิปี 67 เท่ากับ 6,901 ล้านบาท -6%YoY ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของ Consensus โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (PPOP:Pre-Provision Operation Profit) 9,971 ล้านบาท +5.5%YoY แต่กำไรสุทธิลดลงเนื่องจากมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 66 จากการกลับมาตั้งสำรองสู่ระดับปกติ ขณะที่ Coverage Ratio อยู่ที่ 155.3% ลดลงต่อเนื่องจากระดับสูงสุดที่ 258.8% ในปี 65
•สินเชื่อปลายปี 67 หดตัว 1%YoY จากการลดลงของสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ สินเชื่อเพื่อ ที่อยู่อาศัย และสินเชื่อ SME ซึ่งหดตัวมากกว่าการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจ +4%YoY ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ลดเหลือ 4.85% จาก 4.95% แม้อัตราผลตอบแทนของสินเชื่อปรับสูงขึ้นสู่ 7.68% จาก 7.42% ในปี 66 แต่ไม่สามารถชดเชยต้นทุนการเงินที่ปรับขึ้นแรงสู่ 2.42% จาก 1.92% ในปี 66
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ที่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปีนี้เฉลี่ย 6,682 ล้านบาท -3%YoY ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับสมดุลของความเสี่ยงกับผลตอบแทน ขณะที่ผู้บริหารยังยืนยันจ่ายเงินปันผลสูงเพื่อรักษาระดับ ROE ซึ่งหมายถึงอัตราผลตอบแทนเงินปันผลตาม consensus ที่สูงราว 7-8% จึงแนะนำถือ
หุ้นมีข่าว
(+) BBL (Bloomberg Consensus 180.00 บาท) สินเชื่อปี 2568 โต 3-5% คาดจีดีพี ขยายตัวกว่า 3% ลั่นคุม NPL ไม่เกิน 3.4% พร้อมทั้งยังเห็นโอกาสเติบโตในอาเซียน หวังหนุนลูกค้าขยายการลงทุนสู่ต่างประเทศ จากเงินไหลเข้ามาลงทุน แต่เตรียมรับมือความท้าทายจากเศรษฐกิจโลก (ที่มา ทันหุ้น)
(+) EKH (Bloomberg Consensus 8.13 บาท) เดินหน้ายกระดับศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง คาดเปิดให้บริการตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 พร้อมเดินหน้าขยายพื้นที่สร้างอาคารหลังที่ 3 โรงพยาบาล เอกชัย สมุทรสาคร รวมถึงผนึกพันธมิตรผุดโรงพยาบาลคูน แห่งที่ 2 ตั้งเป้าให้บริการปี 2569 หนุนรายได้เติบโตมั่นคง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BANPU (Bloomberg Consensus 5.80 บาท) แย้มราคาก๊าซขยับสูง ส่งผลดีทั้งงบไตรมาส 4/2567 และไตรมาส 1/2568 เดินหน้าผลักดันพลังงานสะอาด มุ่งลดปล่อยคาร์บอน เป้าเปลี่ยนโครงสร้างกำไร EBITDA จากพลังงานทดแทน พลิกเป็นแกนหลักในปี 2573 ผลงานรวมขยายตัว 1.5 เท่าจากปัจจุบัน ปีนี้ลงทุนธุรกิจเขียว 500-600 ล้านดอลลาร์ ตามแผน 5 ปี 3,000 ล้านดอลลาร์ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AOT (Bloomberg Consensus 68.00 บาท) ประมาณการจำนวนผู้โดยสารช่วงเทศกาลตรุษจีน 24 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ รวม 10 วัน ราว 4.03 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.4% และมีเที่ยวบิน 24,599 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 16.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้าน "สุริยะ" ระบุนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยราว 7.7 แสนคน เพิ่มขึ้น 22.6% สั่ง AOT เตรียมความพร้อมทุกมิติ (ที่มา ทันหุ้น)