วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี PYLON - Backlog สูงสุดใน 7 ไตรมาส

เรามีมุมมองบวกต่อภาพอุตสาหกรรมเสาเข็ม หลังรัฐทำงบประมาณการลงทุนปี 2025F สูงสุดในรอบกว่า 10 ปี และเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากทั้งโครงการรัฐและเอกชน ที่จะมีออกมามากขึ้น
โดยทั้ง PYLON และ SEAFCO มี Backlog สูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส โดยคาดกำไร PYLON ปี 25F ฟื้นตัวแรง +132% y-y จากงานที่มีมากขึ้น และคง “Buy” จาก TP25F 2.6 บาท อิง P/BV 1.8 เท่า
ภาพอุตสาหกรรมเริ่มทยอยฟื้นตัว
- โครงการรัฐทยอยมากขึ้น : ปี 2025F เป็นปีที่รัฐจัดทำงบประมาณด้านการลงทุนสูงขึ้นในรอบ 10 ปี ที่ 24.2% ของงบประมาณ เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 20.7% โดยในส่วนของกลุ่มเสาเข็ม มองโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (บางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรม) เป็นจุดเปลี่ยนเชิงบวกของกลุ่มฯในรอบกว่า 4 ปี จากขนาดโครงการสูงมูลค่า 1.2 แสนลบ. และเทียบเป็นมูลค่างานเสาเข็มราว 3.0 พันลบ. คิดเป็นราว 40% ของรายได้ Big4 ผู้ประกอบการเสาเข็มไทย ซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มเคลียร์พื้นที่แล้ว และผู้ชนะประมูลหลัก คือ SEAFCO ได้งานราว 1.2 พันลบ. ขณะที่ ส่วนที่เหลือคาดมีโอกาสที่ผู้ประกอบการอื่นได้เช่นกัน นอกจากนี้ คาดปี 2025F ยังมีโครงการรัฐอื่นตามมา ซึ่งโครงการที่น่าสนใจต่อกลุ่มเสาเข็มคือ ทางด่วนจตุโชติ (1.8 หมื่นลบ.) คาดประมูลเม.ย.และทางด่วน Double deck (3.5 หมื่นลบ.) คาดประมูลปลาย 25F
- Backlog PYLON และ SEAFCO สูงสุดใน 7 ไตรมาส : โดย PYLON ล่าสุดรับงานใหญ่เอกชน คือ เวิ้งนครเกษม 350 ลบ. ขณะที่ SEAFCO รับงานรถไฟฟ้าสีส้ม 1.2 พันลบ. ทำให้ Backlog PYLON SEAFCO ขึ้นมาที่ 1.1 และ 1.5 พันลบ. ตามลำดับ สูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส แต่ยังต่ำกว่าช่วง Peak cycle ปี 2018-19 ซึ่งมีงานรัฐ (รถไฟฟ้า 3 สาย) และงานเอกชนใหญ่ (One Bangkok) ทั้งนี้ ในส่วนของ PYLON คาดมีโอกาสที่ Backlog จะเร่งตัวขึ้นอีกจากงานเอกชน และงานสายสีส้ม (รวมในประมาณการแล้ว)
- ค่าแรงขั้นต่ำ 400 : ยังมีผลกระทบจำกัด เนื่องจากงานเสาเข็มมีระยะเวลาสั้นราว 3-6 เดือน สามารถส่งผ่านต้นทุนได้เร็ว โดยประเมินค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท มีผลกระทบต่อกำไรปี 25F ราว 1.7% (บนสมมติฐานรับผลกระทบ 3 เดือน จากจำนวนแรงงานราว 400 คน)
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามีมุมมอง “Positive” มองภาพอุตสาหกรรมเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว และผลประกอบการทยอยฟื้นตัว โดยประเมินกำไรปี 2024-25F 41 ลบ. (-62%) และ 94 ลบ. (+132%) โดยปี 24F กำไรยังมี Downside เล็กน้อย ส่วนปี 25F ไม่มี Downside จากเป็นช่วงท้ายของรอบกำไรตกต่ำ และงานใหม่ที่รับเข้ามาจะเริ่มงานในปี 2025F เป็นหลัก โดยระยะสั้น คาดกำไร 4Q24F ลด y-y, ใกล้เคียง q-q จากการใช้เสาเข็มใกล้กัน q-q และคาดกำไรจะเข้าช่วงที่ดีเป็นขั้นบันได 1Q-3Q25F ตามงานใหม่ที่เพิ่มมา
- ราคาปัจจุบันปรับลงมาก ซื้อขาย P/BV 1.3 เท่า (-2.1SD) ต่ำสุดในรอบ 10 ปี และ PER 15 เท่า (-0.5SD) แนะนำ “Buy” จาก TP25F 2.6 อิง P/BV 1.8 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ย – 1.4SD ใกล้เคียงรอบปีที่ผลประกอบการตกต่ำ







