วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองของประเทศไทย กดดันดัชนี บวกกับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น

ทำให้นักลงทุนกังวลว่า FED อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนานกว่าคาดมีแรงขายในหุ้น กลุ่มพลังงาน ขนส่ง และพาณิชย์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,318.57 จุด -14.17 จุด -1.06% มูลค่าการซื้อขาย 38,325 ลบ. Program Trading -1,380 ลบ. ต่างชาติ -1,613 ลบ. TFEX -28,057 สัญญา ตราสารหนี้ -1,252.4 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 69.05 จุด หรือ +0.18% ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์นี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ +2.93% ปิดที่ 77.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่าอุปสงค์เชื้อเพลิงในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
+ กระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงการณ์ระบุว่า ท่าเรือชั่วคราวของสหรัฐในชายฝั่งของฉนวนกาซาไม่ได้ถูกกองทัพอิสราเอลใช้ในการโจมตี ค่ายผู้ลี้ภัยนูไซรัตแต่อย่างใด
+ กลุ่มฮามาสขานรับการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ผ่านมติเพื่อให้มีการหยุดยิงโดยสมบูรณ์ในฉนวนกาซา
+ บอร์ด กพอ.ติดตามความก้าวหน้า 4 โครงสร้างพื้นฐานหลัก ชี้รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะเริ่มก่อสร้างใน ธ.ค.นี้ ระบุว่าสนามบิน-ท่าเรือมีแผนชัดเจน เสริมปัจจัยดึงดูดการลงทุนสู่พื้นที่ EEC
+ รมช.คลัง เร่งรัดจัดทำหวยเกษียณซึ่งต้องขออนุมัติหลักการ จากที่ประชุมครม. และเริ่มกระบวนการแก้กฎหมายและรับฟังความเห็นสาธารณะเพื่อดำเนินการต่อไป
+กระทรวงการคลังได้ข้อสรุปว่าต้องมีมาตรการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายได้ประมาณ 3% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมของสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่ 2.4% และที่สภาพัฒน์คาดไว้ที่ 2.5%

ปัจจัยลบ 

 

- FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ของปีนี้ออกไปเป็นเดือนพ.ย. จากเดิมเดือนก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด
- กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นเข้าตรวจสอบสำนักงานใหญ่ ของฮอนด้าในกรุงโตเกียว หลังจากฮอนด้าและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ยอมรับว่าดำเนินการทดสอบรถยนต์อย่าง ไม่เหมาะสม
- นางคิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุด ของเกาหลีเหนือเตือนว่าเกาหลีเหนือจะตอบโต้เกาหลีใต้ หากเกาหลีใต้ยังคงใช้ลำโพงและโปรยใบปลิวยั่วยุ

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ระยะสั้น หลังปรับตัวลงแรงวันก่อน โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมัน WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ยังติดตามประเด็นการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,310 -1,325 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• สินค้าส่งออกเดือน เม.ย. เติบโตดี : AAI ITC STA NER TRUBB XO TFG BTG
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET50 เข้า : BCP BJC ITC TIDLOR ออก : BANPU COM7 KCE SAWAD
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET100 เข้า : BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH         ออก : AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN
• มาตรการลดภาษีเที่ยวเมืองรอง : ERW CENTEL BA AAV TNP CPALL

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

TRP "ซื้อ" ราคาเหมาะม 17.00 บาท
รายงานกำไร 1Q67 ดีกว่าคาด คาดฟื้นตัวต่อใน 2Q67

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound

คาดผลประกอบการ 2Q67 จะเติบโตจาก 1Q67 เนื่องจากเริ่มจับตลาดในกลุ่มลูกค้า ที่หลากหลายเพิ่มขึ้น รวมถึงขยายตลาดไปยังกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้นจากการใช้ พรีเซนเตอร์วัยรุ่น นอกจากนี้คาดว่าการเป็นพันธมิตรกับ KKC Clinic จะเห็นผล เต็มไตรมาสเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม

เป็นพันธมิตรกับ KKC Clinic ซึ่งเชี่ยวชาญในการดูแลและบำรุงผิวหน้า โดยหากลูกค้าทาง KKC Clinic มีความต้องการทำศัลยกรรมบนใบหน้าจะส่งต่อให้ทาง TRP โดยในปัจจุบัน KKC Clinic มี 9 สาขา โดย 8 สาขาอยู่ในกรุงเทพฯ และอีก 1 สาขาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี

การก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ของ ธีรพร คลินิก ซึ่งจะมีพื้นที่ใช้สอย 9,918 ตารางเมตร และใหญ่กว่าที่ปัจจุบัน 5 เท่าคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนภายใน 4Q67 โดยหลังแล้วเสร็จจะย้าย ธีรพร คลินิก จากถนนคลองสานมาที่โรงพยาบาลใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตามทาง ผู้บริหาร ยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าที่คลินิกคลองสานจะดำเนินธุรกิจต่อหรือคืนพื้นที่เช่าเพื่อลดค่าใช้จ่ายลง

ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PER โดยใช้ค่าเฉลี่ย PE Ratio ย้อนหลัง 2 ปีของหุ้นที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกัน อาทิ KLINIQ และ MASTER ได้ค่าเฉลี่ย 28 เท่า ทั้งนี้เราคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 2567 ราว 0.60 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 2567 อยู่ที่ราว 17.00 บาทซึ่งมี upside อีกราว 40% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(0) NEX (Bloomberg consensus - บาท) NEX ประกาศเพิ่มทุนครั้งใหญ่ 8.8 พันล้านบาท เสนอขาย PP จานวน 75 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.55 บาท ให้แก่ผู้สนใจลงทุนที่สามารถต่อยอดธุรกิจและโครงการในอนาคต รวมถึงเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมออกวอร์แรนต์ขายผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 5 หุ้นสามัญ "คณิสสร์" ระบุฐานทุนของ NEX จะใหญ่ขึ้นรองรับโอกาสในการขยายไปสู้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล จับตา NEX-EA เปิดแถลงแผนธุรกิจร่วมกันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.67) (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MTC (Bloomberg consensus 51.00 บาท) รับอานิสงส์ช่วงเปิดเทอม หนุนยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาส 2/2567 พุ่ง มั่นใจปีนี้สินเชื่อเติบโต 15-20% มุ่งยกระดับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ-การติดตามทวงถามสู่ระดับสากล หวังปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุนจากทั้งใน-ต่างประเทศ เสริมสภาพคล่อง มั่นใจคุม NPL ให้ปรับลดลงได้ต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SISB (Bloomberg consensus 44.50 บาท) ส่งซิกเปิดปีการศึกษาใหม่สิงหาคม 2567 นี้ หนุนจำนวนนักเรียนเพิ่ม คาดเห็นตัวเลขชัดเจนมากขึ้นช่วงไตรมาส 3-4 ลุยเพิ่ม 1,800 ที่นั่ง ในช่วงที่เหลือของปี 2567 รองรับจำนวนนักเรียนทั้งชาวไทยและต่างชาติ จากปัจจุบันมีนักเรียนรวม 4,278 คน จากโรงเรียนนานาชาติทั้ง 6 แห่ง ทั้งปีคาดจำนวนนักเรียนแตะระดับ 4,600 คน ตามเป้า คาดรายได้ทั้งปีโต 20-25% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DOHOME (Bloomberg consensus 11.90 บาท) ลุยธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 เดินหน้าขยายสาขาเพิ่ม 8 แห่ง วางงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท รองรับมองการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ช่วยหนุนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างและงานประมูลภาครัฐ รวมถึงกลุ่มค้าวัสดุก่อสร้าง มั่นใจดันผลงานปีนี้เติบโตต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)