วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ผลกำไร บจ.

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ผลกำไร บจ.

ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหวลดลง แนวรับ 1,391/1,385 จุด (EMA 75/50 วัน) แนวต้าน 1,410/1,416 จุด ภาพใหญ่ของดัชนีฯ ยังคงอยู่ในรูปแบบขาขึ้นทดสอบแนวต้าน Up Channel กรอบ 1,348-1,432 จุด

ส่วนภาพระยะสั้น ดัชนีฯ เริ่มมีสัญญาณ Correction หลังพุ่งแรงเกือบ 40 จุด ในช่วง 3 วันทำการก่อนหน้า โดยเรายังมองการอ่อนตัวเป็นเพียงชั่วคราว และยังคงเป็นสัญญาณขาขึ้นตราบเท่าที่ดัชนีฯ ไม่หลุด 1,385 จุด

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

US 1Q24E Earnings Results: จับตารายงานผลกำไรของ Travelers, Citizen financials ฯลฯ

TH ผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมำย XD ต่อดัชนีฯ มีสูงถึง -3.87 จุด วันนี้ นำโดย SCB KTB TTB KTC JMT ฯลฯ

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ผลกำไร บจ.

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ผลกำไร บจ.

Weekly Strategy:กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้

ปัจจัยบวกจากสัปดาห์ก่อนหน้า: เราพบสัญญาณการกลับเข้าสู่ขาขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี มาที่ 2.62% +11 bps. MTD ขณะที่อายุ 2 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 2.19% +4 bps. จนทำให้ส่วนต่าง (2/10 Spread Bond Yield) กลับมาเร่งตัวขึ้น 7bps. MTD มาที่ 0.43% ซึ่งการเคลื่อนไหวของในลักษณะดังกล่าว เป็นไปตามรูปแบบของภาวะ Bear steepening Yield Curve ซึ่งมักจะตามมาด้วยการลดระดับส่วนต่างอัตราผลตอบแทนตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร (Earnings Yield Gap: EYG) ปัจจัยดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย หลังรัฐบาลเดินกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ ทั้งมาตรกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์และมาตรการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับมา Risk-on ของนักลงทุน และหนุนต่อ Upside ของดัชนี SET

ลุ้นผลกำไรบจ.สัปดาห์นี้: สัปดาห์นี้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงการประกาศผลการดำเนินงาน 1Q24E ของ บจ. ไทย โดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นกลุ่มแรกที่คาดว่าจะประกาศผลการดำเนินงาน อิง Consensus (ณ วันที่ 4 เม.ย. 2024) คาดการณ์กำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 6.2 หมื่นล้านบาท +22.1% QoQ และ +4.7% YoY โดย QoQ 1) ได้ปัจจัยหนุนจากการลดลงของการตั้งสำรองฯ เนื่องจากหลายธนาคารมีการตั้งสำรองพิเศษ (กรณี ITD) ไปแล้ว  

 

ขณะที่ YoY ได้ปัจจัยหนุนจาก 1. NIM ที่ยังคงได้รับประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยสูงของไทย และ 2. การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยหุ้นธนาคารที่คาดว่าจะรายงานกำไรเติบโตสูงขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ได้แก่ BAY BBL KBANK KTB SCB TTB ขณะที่ KKP คาดรายงานกำไรลดลง -47.6% YoY และ TISCO -1.5% YoY  ทั้งนี้ สัปดาห์นี้จะมีหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้แก่ KTB, SCB และ TTB ขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 3.6 จุด คิดเป็น 82% ของ Dividend effect ของหุ้นที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในสัปดาห์นี้

แนะนำถือรอขาย: ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เปิดทำการเพียง 3 วัน โดยปัจจัยต่างประเทศก็เป็นช่วงที่ไม่มีข่าวเกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจ (Quiet Session) ทำให้การเคลื่อนไหวดัชนีฯ มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณามูลค่าของดัชนี SET ผ่าน MRP พบว่า ดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมาเหนือระดับ 1,407 จุด กดดันให้ MRP ปรับตัวลดลง 17 bps. มาที่ 4.23% ซึ่งเข้ามาอยู่ในกรอบ “ขาย” ของเรา ที่ 1,385-1,437 จุด อิง MRP (4.31%-4.06%) (Figure 2) แต่ด้วยปัจจัยหนุนจาก 1. Yield curve ที่กลับเข้าสู่ภาวะ Bear steepening (MRP มักอยู่ในขาลง) 2. 12M Forward EPS อยู่ในทิศทางปรับประมาณการขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ 3. กำไร 1Q24 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ มีแนวโน้มกลับมาเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ทำให้เรามองว่า Momentum ขาขึ้นอาจแกว่งตัวได้แรงกว่าปกติ แนะนำ ถือเพื่อไปรอขายเมื่อ MRP ลงมาต่ำกว่ากรอบล่างที่ 4.06% หรือ ขายเมื่อดัชนีทะลุ 1,437 จุด

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ:

EU รายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค. คาดลดลงต่อเนื่อง แม้ Consensus คาดรายเดือนเพิ่มขึ้นเป็น +0.8% MoM (Vs +0.6% MoM ในเดือน ก.พ.) แต่หากเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน พบว่า ลดลงเป็น 2.4% YoY (Vs เดือน ก.พ. 2.6% YoY) ส่วน Core Inflation Rate เดือน มี.ค. คาดลดลงเป็น +2.9% YoY (Vs 3.1% YoY ในเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2022)

 

UK รายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค. คาดลดลงทำสถิติต่ำสุดรอบปี โดย Consensus คาด +0.5% MoM, +3.1% YoY (ลดลงจากเดือน ก.พ. ที่ +0.6% MoM, +3.4% YoY เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2021) ส่วน Core Inflation Rate เดือน มี.ค. คาด +4.3% YoY (ลดลงจากเดือน ก.พ. ที่ +4.5% YoY เป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. 2022)

US รายงาน Fed Beige Book คาดมีสัญญาณบวกจากคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ 1Q24E GDP เติบโตสูงกว่าคาดการณ์เป็น 2.5% QoQ (Vs Bloomberg Consensus อยู่ที่ 2% QoQ)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ CPAXT SABINA AOT

 

Strategic daily picks

CPAXT    ปิด 31.75 บาท/แนวรับ 30.75 บาท แนวต้าน 34.25 บาท

รับอานิสงส์เชิงบวกจากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้า-บริการสูงสุด 50,000 บาท (Easy E-Receipt) ใน 1Q24 และความชัดเจนของโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต ด้วยจุดเด่นจำนวนสาขารวมกว่า 2,690 สาขา (ค้าส่ง/ค้าปลีก = 168/2,522 สาขา) กระจายอยู่ทั่วประเทศ (Consensus Fair Price 35.60 บาท)

SABINA   ปิด 25.00 บาท/แนวรับ 24.60 บาท แนวต้าน 27.25 บาท

เป็นหุ้น domestic play ที่ได้ประโยชน์จากการกลับเข้าสู่ช่วงของการกระตุ้นทางเศรษฐกิจไทย อีกทั้งธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ซึ่งรับรู้รายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ (สัดส่วน 7% ของรายได้รวม) ยังได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วง 1Q24E ที่อ่อนค่ามากถึง -5.6% (Consensus Fair Price 31.40 บาท)

AOT     ปิด 66.75 บาท/แนวรับ 65.50 บาท แนวต้าน 69.00 บาท

รับอานิสงส์เชิงบวกการลงทุนภาครัฐ ในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐ ที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการบิน (Aviation Hub) ผ่านการพัฒนาและยกระดับบริการของท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแล ขณะที่ปัจจัยหนุนระยะสั้น มาจากการเร่งตัวต่อเนื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย นับจากต้นปี 2024 (1 ม.ค. – 7 เม.ย. 2024) อยู่ที่ 10 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 4.85 แสนล้านบาท เฉลี่ยต่อหัว 48,500 บาท สูงขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของปี 2023 ที่ 46,800 บาท Consensus Fair Price 74.00 บาท)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ผลกำไร บจ. วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ผลกำไร บจ.