กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ค่าเงินบาทอ่อนยังกดดันฟันด์โฟลว์ ตลาดน่าจะแกว่งกรอบแคบ

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ค่าเงินบาทอ่อนยังกดดันฟันด์โฟลว์ ตลาดน่าจะแกว่งกรอบแคบ

สัปดาห์นี้ SET Index น่าจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด ในสัปดาห์ก่อน (18-22 มี.ค.) ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เป็นไปตามภาพรวมรายสัปดาห์ของเรา

แม้ว่าเฟดได้ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567 และอีก 3 ครั้งในปี 2568 แต่ว่าข่าวดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ในทางตรงกันข้าม การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นและกระแสข้อมูลมหภาคของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในช่วงล่าสุด นอกจากนี้ แนวโน้มดอกเบี้ยในฝั่งยุโรปและอังกฤษ ซึ่งประธาน ธ.กลางของทั้งสองแห่ง (ECB และ BoE) ส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยใกล้จะปรับลดลงแล้วนั้น ยังส่งผลกระทบต่อสกุลเงินดังกล่าว และส่งผลบวกต่อดอลลาร์ฯ ในทางอ้อมด้วย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และส่งผลให้เงินทุนต่างชาติเข้าสู่ตลาดไทยจึงไม่มีเสถียรภาพมากนัก

สัปดาห์นี้ (25 - 29 มี.ค.) ดัชนี SET น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยเรายังคงมองว่าฟันด์โฟลว์ยังคงไม่มีเสถียรภาพ เนื่องจากค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าลงในช่วงนี้ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงดูดีอยู่อย่างน้อยในช่วงสั้นๆ ในขณะที่เงินบาทมีปัจจัยเฉพาะบางประการที่อาจนำไปสู่การอ่อนค่าลงอีก เช่น โดยปกติจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของเงินบาทในไตรมาสที่ 2 รวมทั้งการที่ตลาดเริ่มเก็งกำไรว่า กนง. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายน... นอกจากนี้ นายกฯ เศรษฐา ส่งสัญญาณว่ามาตรการกระเป๋าเงินดิจิทัลจะดำเนินต่อไป โดยในวันนี้ รมช. คลังและปลัดคลังจะมีการแถลงข่าว
ร่วมกันเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการดังกล่าว

 

 

 

ปัจจัยสำคัญต่อตลาด พลิกจากฝั่งต่างประเทศมาเป็นปัจจัยภายในประเทศ

ปัจจัยต่างประเทศ: ในมุมมองของเรา ปัจจัยเศรษฐกิจโลกไม่น่ามีนัยสำคัญต่อตลาดในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินทั่วโลก รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของจีนได้ออกมาแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางด้านฝั่งสหรัฐฯ นั้น ช่วงเวลา blackout period ของเฟดได้หมดไปแล้ว และการออกมาแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดในสัปดาห์นี้ น่าจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในสัปดาห์นี้

ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์นี้มีข่าวเศรษฐกิจในประเทศน่าติดตาม 3 ประเด็นด้วยกัน i) สภาผู้แทนฯ มีแนวโน้มที่จะอนุมัติร่าง พรบ. งบประมาณปี 2567 ในวันนี้ และน่าจะสามารถส่งให้วุฒิสภาพิจารณาในวันที่ 26 มีนาคม ii) รมช. คลังและปลัดคลังจะมีการแถลงข่าวร่วมกันเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการดังกล่าวในวันนี้ และ iii) วันที่ 29 มีนาคม ทาง ธปท. จะรายงานชุดข้อมูลเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์

 

 

แนะนำทยอยสะสมหุ้นตามธีมกลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 2 ของเรา

ในช่วงที่ตลาดหุ้นทรงตัวในระดับต่ำอยู่นี้ เราแนะนำให้นักลงทุนสะสมหุ้นธีมกลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 2 ของเรา เช่น i) หุ้นวัฏจักรที่ควรได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวและตลาดน้ำมันที่ตึงตัวขึ้นในปัจจุบัน (BSRC*, PTTGC* และ SPRC*) ii) บทบาทของภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงฟื้นตัวแรงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย (AAV*, AOT* และ SHR) iii) หุ้นรับเหมาก่อสร้าง รับข่าว พรบ.งบประมาณปี 2567 ซึ่งน่าจะผ่านการพิจารณาทั้งจาก ส.ส. และ ส.ว. ในสัปดาห์นี้ (CK*) และ iv) หุ้นกลุ่มไฟฟ้ารายตัวที่อาจมี upside จากนโยบายค่าไฟ (GPSC*) นอกจากนี้เรายังเห็นโอกาสในการเก็งกำไรหุ้น KTB* เมื่อพิจารณาถึงอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ และยังมีสัญญาณความก้าวหน้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้นของแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคาร