วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในช่วงบ่าย จากแรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับตัวขึ้นในวันก่อนหน้า มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ส่วนแรงขายมาจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก และพลังงาน เป็นต้น โดยนักลงทุนติดตามการพิจารณาพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,381.04 จุด -6.58 จุด -0.47% มูลค่าการซื้อขาย 39,301 ลบ. Program Trading -79.64 ลบ. ต่างชาติ -627.25 ลบ. TFEX -12,731 สัญญา ตราสารหนี้ -2,208.99 ลบ.


ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 305.47 จุด หรือ -0.77% จากแรงขายทำกำไรหลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดลบเล็กน้อย และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น แต่ดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบสัปดาห์หลังจาก FED ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งภายในปีนี้ แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวก 2%
+ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า มีโอกาสราว 71% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 56% ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
+ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนผู้นำสหรัฐลงนามบังคับใช้กฎหมายงบประมาณมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ทำให้รัฐบาลมีเงินใช้จนถึง 1 ต.ค. และช่วยหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนหรือชัตดาวน์
+ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.อนุมัติ 5 โครงการสินเชื่อสถาบันการเงินของรัฐ ในช่วงต้นเดือน เม.ย.67 เพื่อดูแลประชาชนเพิ่มเติม
+ สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วาระ2-3 โดยจะต้องส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป คาดนำร่างฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 3 เม.ย. 2567 นี้เพื่อประกาศใช้ตามขั้นตอนต่อไป

ปัจจัยลบ 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 44 เซนต์ หรือ -0.54% ปิดที่ 80.63 ดอลลาร์/บาร์เรล และทรงตัวในรอบสัปดาห์ ขณะที่ความเป็นไปได้ที่จะมีการหยุดยิงในฉนวนกาซาถ่วงราคาน้ำมันดิบลง แต่สงครามในยูเครนและแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐที่ลดลงช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบติดลบน้อยลง
- รัสเซียโจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธและโดรน 57 ลูกเป้าหมายคือเคียฟ เป็นการทิ้งระเบิดทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในยูเครนในรอบกว่า 2 ปีของสงครามเต็มรูปแบบ
 

 

- รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายเป็นระดับสูงสุด หลังเกิดเหตุกราดยิงในกรุงมอสโกประเทศรัสเซีย
- บริษัทเมอส์ก (Maersk) บริษัทเดินเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์กยังคงระงับการเดินเรือในทะเลแดงโดยใช้เส้นทางอ้อมแหลมกู้ดโฮปของทวีปแอฟริกาตั้งแต่ 5 ม.ค. เนื่องจากประเมินว่ายังคงมีความเสี่ยงสูงแม้มีความพยายามจากสหภาพยุโรป (EU) ในการเพิ่มความปลอดภัยในภูมิภาค
- นายราฟาเอล บอสติก ประธาน FED สาขาแอตแลนตาคาดว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพียงครั้งเดียวในปีนี้ ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสองครั้งเนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
- ตลาดหลักทรัพย์ สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-22 มีนาคม 2567 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,416.49 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 2,402.39 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 69,212.79 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 75,031.66 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้   

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันทางด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้นหลังรัสเซียโจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธและโดรน โดยมีเป้าหมาย คือกรุงเคียฟ ของยูเครน ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีแรงหนุนจากสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2567 วาระ2-3 มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,375-1,390 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• ราคายางพาราทำ New High รอบ 3 ปี : STA TRUBB NER TEGH
• สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วาระ2-3 : CK STEC TASCO CRANE
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO KOOL

 

 

  

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

PRM "เก็งกำไร" Bloomberg Consensus 8.18 บาท Upside 12%
"มุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรปกติปี 67 ระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากการซื้อหุ้นคืน
และแผนลดทุนจดทะเบียน"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

•งวด 4Q66 มีกำไร 770 ลบ. +9%YoY +128%QoQ เติบโตแรง QoQ โดยหลักมาจากกำไรจากการขายเรือ 312 ลบ. และ FX 13 ลบ. แต่ยังน้อยกว่า 4Q65 ที่มีกำไรจากการขายเรือ 523 ลบ. หากพิจารณาเฉพาะกำไรปกติจะอยู่ที่ 424 ลบ. -27%YoY +22%QoQ โดยมาจากรายได้ 2,054 ลบ. -14%YoY +12%QoQ หดตัว YoY จากกลุ่มเรือ FSU (สัดส่วน 25%) -40%YoY จาก U.rate ปรับลดลงสู่ 62% (4Q65 = 100%, 3Q66 = 52%) จากราคาน้ำมันที่อยู่ในสภาวะ Backwardation ส่งผลให้ความต้องการกักเก็บน้ำมันลดลง อย่างไรก็ตาม รายได้บางส่วนถูกชดเชยด้วยธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันในประเทศ (สัดส่วน 43%) +9%YoY จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของภาคท่องเที่ยว โดยทั้งปี 66 มีรายได้และกำไร 8,087 ลบ. +5%YoY และ 2,214 ลบ. -4%YoY ตามลำดับ

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 67 จากแผนขยายงานอย่างต่อเนื่อง อาทิ เรือขนส่งน้ำมัน เรือเคมี ซึ่งขยายตัวตามโรงกลั่นน้ำมันที่มีแผนเปิดเพิ่มหลายแห่ง โดยปีนี้ มีแผนรับเรือลำใหม่เพิ่ม อาทิ เรือขนส่งเคมี 2 ลำ เรือ Crew Boat 2 ลำ เรือ AWB 1 ลำ และเรือ Alframax 1 ลำ (ทดแทนเรือลำเดิม) ส่วนกลุ่มเรือ FSU ปัจจุบันมี U.Rate ปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ Catalyst ระยะสั้นจะมาจากแผนขยายวงเงินซื้อหุ้นคืนจาก 800 ลบ. เป็น 1,400 ลบ. (ปัจจุบันซื้อคืนไปแล้วราว 43%) และมีแผนลดทุนจดทะเบียนหลังซื้อคืนแล้วเสร็จ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปกติปี 67 ราว 2,022 ลบ. +12%YoY ขณะที่ราคาเหมาะสม 8.18 บาท Upside เพียง 12% แนะนำ “เก็งกำไร”

หุ้นมีข่าว

(+) DELTA (Bloomberg consensus 71.00 บาท) ชี้เปิดโรงงานแห่งที่ 8 ดันผลงาน ชูออเดอร์อีวีกลับมาแล้ว หลังร่วงไตรมาส 4 เดินหน้าซื้อที่ดินบริเวณใกล้โรงงานแห่งที่ 8 เพิ่มราว 150 ไร่ เพื่อขยายกำลังผลิตเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า รองรับดีมานด์เติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้ผลิตภัณฑ์อีวีแตะ 2.5 พันล้านดอลลาร์ จากปีก่อนที่มี 1.2 พันล้านดอลลาร์ ปีนี้ทุ่มงบ 200-300 ล้านดอลลาร์ ลุยขยายธุรกิจต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EURO (Bloomberg consensus - บาท) ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โตเกิน 15% แตะ 1.4 พันล้านบาท ชี้ครึ่งปีแรกเปิดโชว์รูมใหม่ 2 แห่ง ดีลแบรนด์ชั้นนาระดับโลกเติมพอร์ต 3 แบรนด์ วางกลยุทธ์เจาะตลาดใหม่ รักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ ตุน Sales Order คงค้างแล้ว 1,009 ล้านบาท มั่นใจดันผลงานออลไทม์ไฮ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WICE (Bloomberg consensus 6.10 บาท) ผนึกกำลัง OR ลงนามเซ็น MOU "โครงการทดลองระบบการขนส่งระยะไกลด้วยยานยนต์เชื้อเพลิงไฟฟ้า (EV) สำหรับส่งเมล็ดกาแฟดิบ" ให้สอดคล้องกับนโยบายความร่วมมือด้านการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมผลักดัน ยานยนต์เชื้อเพลิงไฟฟ้า (EV) เป็นทางเลือกใหม่ของระบบขนส่งในอนาคต ถือเป็นการใช้ยานยนต์เชื้อเพลิงไฟฟ้า (EV) วิ่งเส้นทางระยะไกลเป็นเจ้าแรก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TSE (Bloomberg consensus - บาท) ฐานทุนแกร่งหลังขายโรงไฟฟ้าโอนิโกเบ มูลค่า 3,357 ล้านบาท ชำระคืนหนี้ ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดลง ลั่นปี 2567 พร้อมลุยธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะชุมชน เดินหน้าประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าต่อเนื่อง เล็งธุรกิจ New S-Curve สนใจเฮลธ์แคร์ กลางปีนี้ชัดเจน (ที่มา ทันหุ้น)