วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

 เจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งในปี 67 ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,387.62 จุด +14.44 จุด +1.05% มูลค่าการซื้อขาย 43,596 ลบ. Program Trading +2,132.49 ลบ. ต่างชาติ +2,037.72 ลบ. TFEX +39,687 สัญญา ตราสารหนี้ +438.49 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 269.24 จุด หรือ +0.68% โดยทั้ง ดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากผลการประชุมของเฟด ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตชิปพุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไมครอน เทคโนโลยี
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย
+ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มฮูตีให้การรับประกันต่อความปลอดภัยของเรือขนส่งสินค้าสัญชาติจีนและรัสเซีย หากมีการเดินทางในทะเลแดงและอ่าวเอเดน

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 20 เซนต์ หรือ -0.25% ปิดที่ 81.07 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่อ่อนแอลงในสหรัฐ และสหรัฐเสนอร่างมติต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิงในฉนวนกาซา
- ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSB) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองของไต้หวันไม่แนะนำให้ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน เดินทางเยือนทะเลจีนใต้ในตอนนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่การเดินทางอาจถูกแทรกแซงโดยประเทศที่เกี่ยวข้อง ขณะที่จีนมีกองกำลังประจำการอยู่ในบริเวณดังกล่าว

- รัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 10 ราย และสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรม แม้ว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงสกัดขีปนาวุธทั้งหมดได้ก็ตาม
- ttb analytics ระบุว่า ตัวเลขยอดขายรถยนต์ในประเทศปีนี้ส่งสัญญาณหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่สองจากหลายปัจจัยลบรุมเร้า เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอลงตามภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและหนี้ครัวเรือนสูงเรื้อรัง

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามการพิจารณาร่าง พร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2567 (เพิ่มเติม) มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,380-1,395 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• BTC ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง : JTS ZIGA BROOK TTA
• ราคายางพาราทำ New High รอบ 3 ปี : STA TRUBB NER TEGH
• พิจารณาร่าง พร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2567 (เพิ่มเติม) : CK STEC TASCO CRANE

 

หุ้นรายงานพิเศษ

OSP "ซื้อ" (Bloomberg Consensus 24.65 บาท)
กำไรสุทธิปี 23 เติบโต 24%YoY

•งวด 4Q23 บริษัทมีกำไรสุทธิ 433 ลบ.+29%YoY, -33%QoQ มีรายได้รวม 6,590 ลบ. +2%YoY, +3%QoQ รายได้เติบโตจากธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังทั้งในประเทศ และต่างประเทศ %GPM ที่ระดับ 35.5% เพิ่มขึ้นจาก 29.9% ใน 4Q22 และ 35.4% ใน 3Q23 เนื่องจากกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของโรงงานขวดแก้ว ส่งผลให้ปี 23 บริษัทมีรายได้รวม 26,644 ลบ. -3%YoY และกำไรสุทธิเท่ากับ 2,402 ลบ. +24%YoY ธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลัง บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด 46.6% -3%YoY

•บริษัทตั้งเป้าเติบโตระยะยาวเฉลี่ย (5 Years CAGR) ที่ 9% ต่อปี เป้ารายได้ที่ 4 หมื่นลบ. ในปี 28 เป็นการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่ม Domestic Beverages โตเฉลี่ย 7% ต่อปี Personal Care โตเฉลี่ย 10% ต่อปี และ International Beverages ตั้งเป้าโต 2 เท่า ใน 5 ปี โดยมี Key Drivers คือ 1. เติบโตจากธุรกิจหลักเช่น เครื่องดื่มบำรุงกำลัง Functional Drink 2. การขยายไปต่างประเทศ 3. การเติบโตของแบรนด์ที่มีอยู่ 4.Inorganic Growth

•ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานปี 24 ที่บริษัทตั้งเป้าการเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง (Mid-single-digit) โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรราว 2,719 ลบ. +13%YoY ในขณะที่ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง -10% ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E ปี24 ราว 22.5x เทียบกับค่าเฉลี่ย P/E กลุ่มเครื่องดื่มราว 34x ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 24.65 บาท Upside 24% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) AMATA (Bloomberg consensus - บาท) ตุนแบ็กล็อก 1.4 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ 2-3 ปี คาดรับรู้รายได้ปีนี้ราว 50% พร้อมกางบ 6 พันล้านบาท ลุยซื้อที่ดิน-พัฒนาที่ดินเพื่อขายสร้างความมั่นคงในอนาคต ย้ำเดินหน้ารวบรวมที่ดินในสปป.ลาว ควบคู่เจรจาลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SAWAD (Bloomberg consensus 43.00 บาท) เตรียมรุกธุรกิจ AMC หลังราคาซื้อ-ขายในตลาดปรับลดลงจนน่าสนใจ ทั้งต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายมีแนวโน้มปรับลดลงช่วงครึ่งหลังของปี 2567 รวมถึงราคารถมือสองเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้น ย้ำเป้าพอร์ตสินเชื่อใหม่โต 20% มุ่งสินเชื่อจำนำเป็นหลัก ยันคุม NPL ในกรอบ 3-4% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) KTMS (Bloomberg consensus - บาท) ชี้จำนวนผู้ป่วยโรคไตพุ่งขึ้น เร่งขยายสาขาฟอกแตะ 60 แห่ง ในปี 2569 โฟกัสพื้นที่ห่างไกล ปักเป้าปี 2567 ดันรายได้แตะ 600-650 ล้านบาท เตรียมทุ่มงบ 215 ล้านบาท เปิดศูนย์ฟอกไตเทียม และก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TKS (Bloomberg consensus - บาท) ฟุ้ง Q1/2567 ฟอร์มแจ่มกว่า Q4/2566 อานิสงส์ธุรกิจทุกกลุ่มสดใส พร้อมปักธงปีนี้รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว บอสใหญ่ "จุติพันธุ์ มงคลสุธี" เดินหน้าซื้อหุ้นคืนยาวถึงช่วง 28 สิงหาคม 2567 ระบุราคาอ่อนตัวเกินพื้นฐานที่แท้จริง-แนวโน้มธุรกิจโตต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)