วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา ตัวเลขเศรษฐกิจจีน

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงจะเกิดขึ้น หากดัชนีฯ ร่วงหลุดเส้น EMA 10 วัน (1,382 จุด) และยืนยันด้วยการร่วงต่ำกว่าแนวรับเดิม 1,375 จุด

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

Weekly Strategy >>มุมมองต่อ SET Index: สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยจะมีปัจจัยหนุนจาก 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มชัดเจนขึ้นของไทยหนุนความคาดหวัง EPS Growth ฟื้นตัว และ 2) ผลบวกจากตลาดหุ้นจีนซื้อ-ขายในระดับ PER ที่สูงขึ้น (มีความสัมพันธ์เชิงบวกสูงกับตลาดหุ้นไทย) หนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีความต่อเนื่อง และ 3) กระแสการไหลกลับของเงินทุนต่างชาติ ตามการแข็งค่าของสกุล เงินเยน หาก BoJ ส่งสัญญาณยกเลิกนโยบายทางการเงินผ่อนคลายพิเศษ (Ultra easing) ทั้งนี้ ค่าเงินเยนมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับค่าเงินบาท ด้วย Correlation 2010-23 อยู่ที่ 72% อย่างไรก็ตาม ด้วยความเสี่ยงของการประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง ทั้ง FOMC BoE และ BoJ ที่มีแนวโน้มจะออกมาเข้มงวดขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเริ่มฟื้นกลับ ทำให้เรามองว่า ดัชนี SET จะเผชิญความผันผวนที่สูงขึ้นกว่าปกติ แนะนำ เพิ่มความระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น โดยเราแนะนำกลยุทธ์ลงทุนประจำสัปดาห์ ดังนี้

“ซื้อ” เมื่อ SET อยู่ในกรอบ 1,339-1,379 จุด อิง MRP 4.61%- 4.40% (+2 S.D., +1 S.D.)

“เก็งกำไร” เมื่อ SET อยู่ในกรอบ 1,379-1,422 จุด อิง MRP 4.40%-4.20% (+1 S.D., ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 90 วัน)

“ขาย” เมื่อ SET สูงกว่า 1,422 จุด อิง MRP ต่ำกว่า 4.20% (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 90 วัน)

 

กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้: SET ปัจจุบัน อยู่ในกรอบ “เก็งกำไร” ที่ 1,379-1,422 จุด (MRP 4.40%-4.20%) แนะนำ “ลดน้ำหนักการซื้อลง โดยใช้เงินเพียงบางส่วนเพื่อเก็งกำไร” โดยมีเป้าหมายในการเริ่มทยอยขายเมื่อดัชนีสูงกว่า 1,422 จุด (MRP ต่ำกว่า ค่าเฉลี่ย 90 วัน เคลื่อนที่ ที่ 4.20%) หุ้นแนะนำ NER BEM AOT

 

Opportunity Day: IP NCAP PQS CHOW NDR BCH SOLAR SSC GUNKUL SKR ITTHI GCAP SIRI DEXON SSP LHHOTEL

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ :

China: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญงวดเดือน ม.ค.-ก.พ. 2024 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ Retail Sales, Fixed Asset Investment, Industrial Production, Unemployment Rate โดย Consensus คาดว่า Retail Sales เติบโตลดลง +5.3% YoY (Vs เดิม +7.4% YoY) Industrial Production คาด +4.9% YoY (VS เดิม +6.8% YoY) Fixed Asset Investment (YTD) คาดดีขึ้น +3.2% YoY (Vs เดิม +3% YoY) อัตราว่างงานคาดเท่าเดิมที่ 5.1% สะท้อนกิจกรรมเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงเติบโตต่ำต่อเนื่อง ยกเว้นการลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น

EU: รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.พ. มีสัญญาณชะลอตัว เพิ่มโอกาส ECB ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย โดย Consensus คาด ตัวเลข Inflation เดือน ก.พ. (ครั้งสุดท้าย) คาดเติบโต +2.6% YoY (Vs เดือน ม.ค. +2.8% YoY) Core Inflation เดือน ก.พ. +3.1% YoY (Vs เดือน ม.ค. +3.3% YoY)

EU: รายงานดุลการค้าเดือน ม.ค. คาดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านยูโร ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. ที่เกินดุล 1.68 หมื่นล้านยูโร สะท้อนภาพการค้าระหว่างประเทศที่ดีขึ้น

US: รายงาน NAHB Housing Market Index เดือน มี.ค. คาดเพิ่มขึ้นเป็น 49 ดีขึ้น เมื่อเทียบกับเดิอน ก.พ. ที่ 48

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ NER BEM AOT

 

Strategic daily picks

NER    ปิด 6.30 บาท/แนวรับ 6.00 บาท แนวต้าน 6.90 บาท

บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาขายยางในปี 2024E มากขึ้น โดยมองราคาขายยางในกรอบ 60-70 บาท/กก. (vs. 53-55 บาท/กก. ในการประชุมนักวิเคราะห์ครั้งก่อน) และคาด GPM มีโอกาสทาจุดสูงสุดใหม่ที่ 15-16% หนุนจากอุปทานยางที่ตึงตัวขึ้น โดย KTX ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-26E ขึ้น 14-18% สะท้อนการปรับราคาขายยาง และ GPM เพิ่มขึ้น พร้อมให้คำแนะนำ “Outperform” และมูลค่าเหมาะสมที่ 12M 6.52 บาท

 

 

 

BฺEM     ปิด 8.40 บาท/แนวรับ 7.90 บาท แนวต้าน 8.90 บาท

BEM รายงานเดือน ก.พ. 2024 จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าอยู่ที่ 4.5 แสนเที่ยว/วัน (+13% YoY, +6% MoM) และเฉลี่ย 2M24 ที่ 4.4 แสนเที่ยว/วัน (+13% YoY) ขณะที่จำนวนผู้ใช้ทางด่วนอยู่ที่ 1.13 ล้านเที่ยว/วัน (+0.2% YoY, +2% MoM) และเฉลี่ย 2M24 ที่ 1.12 ล้านเที่ยว/วัน (+0.4% YoY) โดย Bloomberg Consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 10.57 บาท

AOT   ปิด 66.50 บาท/แนวรับ 64.50 บาท แนวต้าน 71.00 บาท

AOT คาดผู้โดยสารปี 2024 อยู่ที่ราว 65 ล้านคน ใกล้เคียงกับปี 2019 โดยทาง AOT เตรียมความพร้อมทุกด้านรองรับการเพิ่มขึ้น ตามสัดส่วนของผู้โดยสาร พร้อมทุ่มงบลงทุนปี 2024 ราว 4 หมื่นล้านบาท ขยายสนามบินทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมือง เฟส 3 โดย Bloomberg Consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 74.02 บาท