วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา ประธานเฟดแถลงภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการการเงินสภาล่าง

ในทางตรงกันข้าม หากดัชนีฯ ยังคงสร้าง New Low ใหม่อย่างต่อเนื่อง ภาพใหญ่ของดัชนีฯ คาดว่าจะเปลี่ยนเป็นกรอบ Down Channel 1,330-1,400 จุด (จากเดิม Sideways กรอบ 1,357-1,405 จุด) ส่งผลต่อบริเวณลุ้นรีบาวนด์ จะปรับลงจาก 1,352 จุด เป็น 1,330 จุด (EMA 200 สัปดาห์)

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

US: ประธานเฟด Powell แถลงการณ์ภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการเงินของสภาผู้แทนราษฎร โดยตลาดจะให้ความสนใจต่อรายงานแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจและสัญญาณดอกเบี้ยนโยบาย ก่อนที่จะมีการประชุมเฟดวันที่ 20 มี.ค. (เราคาดว่าประธานเฟดยังคงส่งสัญญาณไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย บนแนวโน้มเงินเฟ้อมีความเสี่ยงเกิด Sticky Inflation โดยเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.พ. จะประกาศสัปดาห์หน้า และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีสัญญาณเติบโตดีใน 1Q24E โดย Fed Atlanta คาดเติบโตสูงถึง +3% QoQ Vs 4Q23 +3.2% QoQ) ปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ให้มีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้นตามการฟื้นตัวของ US bond yields (โอกาสการลดดอกเบี้ยน้อยลง) กดดันให้เกิดการย้ายกระแสเงินทุนต่างชาตินอกสหรัฐฯ ไหลกลับสหรัฐฯ

Fed Comment: สุนทรพจน์ประธานเฟดสาขาต่าง ๆ Fed Minneapolis Neel Kashkari Non-Voter, H), Fed San Francisco Mary Daly ((Voter, N) โดยจะมีผลเชิงบวกต่อตลาด หากมีการส่งสัญญาณเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

Opportunity Day: TPBI BVG JUBLIE JDF CHASE AMATA V THRE DMT PJW BJC ALT WARRIX TEKA NRF THAI TLI MOSHI CRC CPALL

 

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ/รายงานผลประกอบการบจ. มีต่อเนื่อง

US: รายงานการจ้างงาน ผ่านตัวเลขสาคัญ ได้แก่ 1. ADP Employment Change เดือน ก.พ. โดย Consensus คาดว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น +150k (Vs เดือน ม.ค. +107k) 2. JOLT’s Job Openings เดือน ม.ค. Consensus คาดว่าลดลงเป็น 8.9 ล้านราย (Vs เดือน ธ.ค. 9.026 ล้านราย) และ Job Quits เดือน ม.ค. คาดลดลงเป็น 3.27 ล้านราย (Vs เดือน ธ.ค. 3.392 ล้านราย) โดยหากตัวเลขออกมาลดลงอย่างที่คาดการณ์ จะทำให้มีโอกาสสูงที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ. (ประกาศวันศุกร์นี้) อาจสูงกว่าคาดการณ์

EU: รายงานยอดค้าปลีกเดือน ม.ค. โดย Consensus คาด +0.1% MoM, -1.3% YoY (Vs เดือน ม.ค. -1.1% MoM, -0.8% YoY) สะท้อนการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นช้า ๆ และส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอียู มีจากัด

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ SJWD BEM HMPRO

 

Strategic daily picks

SJWD    ปิด 16.40 บาท/แนวรับ 16.00 บาท แนวต้าน 17.30 บาท

แนวโน้มการดำเนินงาน 1Q24 คาดธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นจะมีอุปสงค์จัดเก็บอาหารทะเลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจจัดเก็บและบริหารยานยนต์ได้รับผลดีจากความต้องการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังขยายตัว ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้าทั่วไปมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาทดแทนลูกค้ารายเดิมเป็นที่เรียบร้อย ส่วนปี 2023 มีกำไรสุทธิ 761.3 ล้านบาท และจ่ายปันผล 0.25 บาท/หุ้น (XD=9 พ.ค. และ PD=27 พ.ค.) โดย Bloomberg Consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 19.95 บาท

 

 

BEM    ปิด 8.20 บาท/แนวรับ 7.60 บาท แนวต้าน 8.50 บาท

หากโครงการขนาดใหญ่อย่าง One Bangkok และ Dusit Central Park เปิดดำเนินการได้ภายในปี 2024 คาดจะส่งผลบวกในเชิงปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เชื่อมโยงสู่มูลค่าอัตราการมองเห็น (Eyeballs) ของพื้นที่ในการโฆษณาตามโลเคชั่น ต่าง ๆ ในสถานีรถไฟฟ้า MRT ที่จะเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ ส่วนปี 2023 มีกำไรสุทธิ 3.48 พันล้านบาท และจ่ายปันผล 0.14 บาท/หุ้น (XD=12 มี.ค. และ PD=3 พ.ค. 2024) โดย Bloomberg Consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 10.59 บาท

HMPRO    ปิด 11.00 บาท/แนวรับ 10.40 บาท แนวต้าน 11.60 บาท

ปี 2023 กำไรสุทธิ 6.4 พันล้านบาท เพิ่ม 4% จากยอดขายเพิ่ม 5% รายได้ค่าเช่าเพิ่ม 9% อัตรากำไรขั้นต้นรวมเพิ่มเป็น 27.5% จาก 27% ในปี 2022 ซึ่ง ณ สิ้นปี 2023 มีโฮมโปร 89 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 27 สาขา และโฮมโปรในมาเลเซีย 7 สาขา พร้อมจ่ายปันผล 0.22 บาท/หุ้น (XD=22 เม.ย. และ PD=8 พ.ค. 2024) โดย KTX คงคำแนะนำ “Netural” ด้วยมูลค่าเหมาะสมที่ 11.23 บาท/หุ้น