กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ ผลประกอบการไตรมาส 4/66 – โดนกระทบจากรายการพิเศษใหญ่ๆ

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ ผลประกอบการไตรมาส 4/66 – โดนกระทบจากรายการพิเศษใหญ่ๆ

กำไร 4Q66 ของบริษัทที่ KGI ศึกษาอยู่ลดลง 6% YoY และ 52% QoQ; ตัวเลขกำไรน่าผิดหวังเพราะผลกระทบจากการบันทึกการด้อยค่าก้อนใหญ่

ใน 4Q66 กำไรสุทธิรวมของบริษัทที่ KGI ศึกษาอยู่ลดลง 6% YoY และ 52% QoQ ทั้งนี้ ตัวเลขกำไรสุทธิออกมาน่าผิดหวังอย่างมาก โดยต่ำกว่า consensus ถึง33% แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมผลขาดทุนจากการด้อยค่าก้อนใหญ่ และ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวของบริษัทหลัก ๆ อย่างเช่น EGCO*, IVL*,TRUE*, BTS* และ TU* กำไรรายไตรมาสจะต่ำกว่าประมาณการเพียง 9% เท่านั้น ทั้งนี้ ในจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ KGI ศึกษาอยู่ มี 31% ที่ผลประกอบการออกมาดีเกินคาด ในขณะที่ 36% เป็นไปตามคาด ส่วนที่เหลืออีก 33% ออกมาน่าผิดหวัง

ผลประกอบการกลุ่มสื่อ, ค้าปลีก และ ท่องเที่ยวออกมาดี ในขณะที่กลุ่ม อิเลกทรอนิกส์ สื่อสาร และรับเหมา ออกมาต่ำคาด

ดังแสดงใน figure 3 หุ้นกลุ่มสื่อ, ค้าปลีก และท่องเที่ยวมี % ของบริษัทในกลุ่มที่ผลประกอบการ 4Q66 ดีกว่าประมาณการสูงที่สุด โดยในส่วนของกลุ่มสื่อ เราคิดว่าเป็นเพราะตลาดคาดหวังไว้ต่ำ ในขณะที่มองบวกมากกว่ากับกลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยว ซึ่งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของสองกลุ่มนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์เดือนมีนาคมของเราที่ให้เน้นสองกลุ่มนี้ ส่วนกลุ่มที่ผลประกอบการออกมาน่าผิดหวัง ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์, สื่อสาร และรับเหมา ซึ่งเมื่อดูจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในช่วงนี้แล้ว เรารู้สึกว่านักลงทุนระมัดระวังกับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด เพราะมีผู้บริหารสองามบริษัทออกมาแสดงมุมมองที่
ระมัดระวังกับแนวโน้มใน 1H67

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ ผลประกอบการไตรมาส 4/66 – โดนกระทบจากรายการพิเศษใหญ่ๆ

 

 

 

 

การปรับลด EPS ช่วงที่ผ่านมาน่าจะสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอใน 1H67 ไปแล้ว ในขณะที่การวิเคราะห์ earnings yield gap ล่าสุดชี้ว่าตลาดมี downside จำกัด

หลังจากที่มีการประกาศผลประกอบการออกมา ตัวเลขจริงของ EPS ปี 2566 (ของบริษัทที่ KGI ศึกษาอยู่) อยู่ที่ 85.1 ลดลง 8% จากปี 2565 เรามองว่าผลจากฐานที่ต่ำอาจจะทำให้ EPS ปี 2567 โตได้ถึง 20% เป็น 101.8 เรามองว่าการที่หลายบริษัททำการ “big baht” ใน 4Q66 และ การปรับลดประมาณการ EPS ปี 2567 ในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในระยะสั้นไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะเดียวกัน การวิเคราะห์ earnings yield gap (EYG) ล่าสุดยังแสดงว่า จนถึงกลางปีนี้ ดัชนี SET ไม่น่าจะลงไปต่ำกว่า 1,400 จุด เมื่อพิจารณาจากระดับผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ 2.6% และ EYG ระยะยาวที่ 4.1%

ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปี 2567 ลดลงเหลือ 1,578 จุด แต่ตลาดหุ้น ยังคงมี upside ที่น่าสนใจ

เนื่องจากมีการปรับลด EPS มากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์นี้ เราจึงปรับลดเป้าดัชนี SET ปี 2567 ลงเหลือ 1,578 จุด โดยยังคงอิงจาก PE ที่ 15.5x (เท่ากับ PE เฉลี่ยระยะยาว) โดยสาเหตุสำคัญที่เรายังคงประเมินดัชนีโดยใช้ PE เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาวคือเรามองว่า GDP ปีนี้จะโตได้ต่ำกว่าศักยภาพ แต่น่าจะถูกชดเชยด้วยแนวโน้มการลดดอกเบี้ยไทย และดอกเบี้ยโลกตั้งแต่ 2H67 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เป้าดัชนีใหม่ของเรายังมี upside จากระดับปัจจุบันอีก 15% และเหมาะสมกับมุมมองตลาดที่เป็นบวกในครึ่งหลังของปีนี้ สำหรับแนวโน้มในระยะสั้น เรายังมองเหมือนกับที่ระบุไว้ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์เดือนมีนาคม โดยเราแนะนำใหนักลงทุนเกาะอยู่กับธีมการลงทุนอย่างเช่น i) แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และมาตรการกระตุ้นทางการเงินของจีน (เราเลือก PTT Global Chemical (PTTGC.BK/PTTGC TB)* และ Star Petroleum Refining (SPRC.BK/SPRC TB)*))

 

 

ii) หุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง YTD โดยเฉพาะจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น (เราเลือก Asia Aviation (AAV.BK/AAV TB)*, Airports of Thailand (AOT.BK/AOT TB)* และ C.P. All (CPALL.BK/CPALL TB)*) และ iii) หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ ซึ่งจะได้อานิสงส์จากความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณา พรบ. งบประมาณปี 2567 ในเดือนนี้ (เราเลือก Ch. Karnchang (CK.BK/CK TB)* และ Sino-Thai Engineering and Construction (STEC.BK/STEC TB)*)

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ ผลประกอบการไตรมาส 4/66 – โดนกระทบจากรายการพิเศษใหญ่ๆ

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ ผลประกอบการไตรมาส 4/66 – โดนกระทบจากรายการพิเศษใหญ่ๆ

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ ผลประกอบการไตรมาส 4/66 – โดนกระทบจากรายการพิเศษใหญ่ๆ