วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Quantamental หุ้นไทยถูก / แต่ยังขาดปัจจัยกระตุ้น

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Quantamental หุ้นไทยถูก / แต่ยังขาดปัจจัยกระตุ้น

ในบทวิเคราะห์เดือนก่อน เราประเมิน Downside ของดัชนี SET index จำกัด เนื่องจาก Valuation ที่ถูก อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยง Downside ของประมาณการกำไรของบริษัทจดะเบียน เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกว่าคาด

SET index เคลื่อนไหวในกรอบ แนวรับ - แนวต้าน ที่เราเคยประเมินไว้ คือ 1,350 – 1,410 จุด ทั้งนี้ ในเดือน ก.พ. นักวิเคราะห์ทำการปรับลดประมาณการ EPS ของ SET index ลง 1.8%

Value factor: Valuation หุ้นไทยถูก (บนข้อมูลปัจจุบัน)

i) Modified yield gap (M-yield gap): M-yield gap ล่าสุด เท่ากับ 2.38 จุด ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.45 จุด แม้ว่านักวิเคราะห์จะทำการปรับลดประมาณการกำไรลงก็ตาม แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ก็ยังคงปรับลดลงต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่ดัชนี SET index ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ค่า M-yield gap เป็นบวกมากกว่า 2.0 จุด ชี้ว่า Valuation ของตลาดหุ้นไทยปัจจุบันถูกกว่าพันธบัตรรัฐบาลมาก

ii) Implied equity risk premium (iERP): iERP ของตลาดหุ้นไทยเท่ากับ 4.03% สูงกว่าเดือนก่อนที่ 3.97% ส่วนต่างระหว่าง iERP กับ Risk free rate (Bond yield อายุ 10 ปี) เพิ่มขึ้นเป็น 1.5% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีตที่ 1.0% และสูงกว่าเดือนก่อนที่ 1.3%

iii) Cyclical adjusted PE (CAPE): อัตราส่วน CAPE ล่าสุดเท่ากับ 16.6 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 16.5 เท่า ในเดือนก่อน ซึ่ง CAPE ปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 120 เดือน (10 ปี) ที่ 20 เท่า ค่อนข้างมาก ขณะที่ส่วนต่างระหว่าง Earnings yield ระยะยาว (1/CAPE) และ Bond yield อายุ 10 ปี (หรือเรียกว่า Excess CAPE yield: ECY) ที่ 3.49% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ ก.ค.64

 

 

 

 

นักลงทุนจัดสรรเงินทุนไว้ในตลาดหุ้นไทยราว 28.2% ของอุปทานเงินทั้งระบบ

Aggregate investor allocation to equity index (AIAE index) เท่ากับ 28.2 จุด สะท้อนว่านักลงทุนได้ทำการจัดสรรเงินลงทุนไว้ในตลาดหุ้นไทยราว 28.2% ของอุปทานเงินทั้งระบบ ซึ่งลดลงมาใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีตที่ 27.6 จุด

มีหุ้นในพอร์ตแนะนำถือต่อ / หรือรอรับหุ้นถ้าตลาดหุ้นปรับลง

SET index อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมา แต่ Valuation ของตลาดหุ้นไทยอยุ่ในระดับที่ต่ำมาก อิงจากโมเดลของเรา เราจึงยังคงประเมินว่า Downside ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างจำกัด อิงจากข้อมูลปัจจุบัน เรายังคงแนะนำให้ถือหุ้นในพอร์ตต่อ หรือ รอซื้อหุ้นถ้าราคาปรับลง

แม้ว่า Valuation ของ SET index จะถูกมากก็ตาม แต่ประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ถูกปรับลดลงต่อเนื่อง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ซึ่งเราได้เตือนประเด็นความเสี่ยงนี้ตั้งแต่บทวิเคราะห์ในเดือนม.ค. แล้ว ว่าประมาณการฯเมื่อต้นปี มีความเสี่ยงด้าน Downside ที่จะต้องถูกปรับลดประมาณการฯลง อย่างไรก็ดี ประมาณการเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) กลับไม่ได้ถูกปรับลดอย่างมีนัยสำคัญมากนัก สะท้อนว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ทำการปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผล (Payout ratio) ขึ้น ซึ่งจะเป็นประเด็นที่ช่วยสนับสนุนดัชนี SET index

โดยสรุป เรายังคงแนะนำให้นักลงทุน ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ถ้าดัชนี SET index ปรับลดลงทะสอบบริเวณแนวรับสำคัญ 1,350 – 1,330 จุด อย่างไรก็ดี Upside ของตลาดหุ้นไทยก็มีไม่มากนัก เนื่องจากขาดปัจจัยบวกระยะสั้น เว้นเพียงแต่การปรับสมมติฐาน Payout ratio ขึ้น ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ “Sell into Strength” ขายทำกำไร ถ้าดัชนี SET index ปรับขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,410 – 1,440 จุด

 

 

หุ้นเด่นเดือน ก.พ. ที่เราแนะนำ ให้อัตราผลตอบแทนรวม 1.9% และ 2.4% อิงตามการคำนวณวิธี Equal weight และ Market cap weight ตามลำดับ ขณะที่ SET index ปรับขึ้นเพียง 0.5% MoM หุ้นเด่นสำหรับเดือน มี.ค.ของเรา แนะนำอยู่ในในตารางที่ 1

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Quantamental หุ้นไทยถูก / แต่ยังขาดปัจจัยกระตุ้น