วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี AWC - กำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q23 ลดลง yoy
กำไรจากธุรกิจหลักของ AWC ใน 4Q23 อยู่ที่ 399 ล้านบาท (-15% yoy,+200% qoq) โดยกำไรเพิ่มขึ้น qoq เพราะเป็นช่วง peak ตามฤดูกาล ซึ่งหนุนให้รายได้ของธุรกิจโรงแรมสูงขึ้น
โดยที่อัตราการเข้าพัก (occupancy rate) อยู่ที่ 65% และ RevPar เพิ่มขึ้นเป็น 3,767 บาท (+4% yoy, +12% qoq) ซึ่งทำ
ให้ margin ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรที่ลดลง yoy เป็นเพราะต้นทุนสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น (+24% yoy) แต่ถึงแม้ว่ากำไรจะลดลง แต่ EBITDA ยังเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 พันล้านบาท (+27% yoy, +50% qoq) โดยที่ EBITDA margin
เพิ่มขึ้นเป็น 39.8% จาก 35.9% ใน 4Q22
ส่วนในปี FY23 บริษัทพลิกเป็นมีกำไรจากธุรกิจหลัก 1 พันล้านบาท จากที่ขาดทุนจากธุรกิจหลัก 93 ล้านบาทในปี FY22 เนื่องจาก (i) รายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 58% เพราะ RevPar เพิ่มขึ้นถึง 55% เป็น 3,658 บาท/คืน จาก occupancy rate ที่ 65% และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยที่ 5,611 บาท/คืน (+16%yoy) (ii) รายได้จากการเช่า และการพาณิชย์เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้น และ (iii) EBITDA เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 4.8 พันล้านบาท และ EBITDA margin เพิ่มขึ้นเป็น 34.4%
ประกาศแผนเพิ่มสินทรัพย์
AWC ประกาศแผนเพิ่มสินทรัพย์ โดยตั้งงบลงทุนรวม (ทั้งต้นทุนการเข้าซื้อ และการพัฒนาโครงการ) ไว้ที่ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสามส่วน ได้แก่ i) 38 Development (มูลค่าการลงทุนรวม 3 พันล้านบาท) ii) โครงการ Lannatique Destination (The Plaza Chiangmai Company Limited, Permsub Siri 2 Company Limited, และ Kalare Chang Klan Chiangmai Company Limited (มูลค่าการลงทุนรวม 1.19 หมื่นล้านบาท) และ iii) AWC Charoenkrung Aset Company Limited (เดิมใช้ชื่อว่า Asiatic Hotel Collection Company Limited) (มูลค่าการลงทุนรวม 4.6 พันล้านบาท) ทั้งนี้ AWC ตั้งใจจะใช้เงินกู้ธนาคารประมาณ 4.8 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการลงทุนตามแผนข้างต้น ซึ่ง ณ สิ้นปี 2023 สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของ AWC อยู่ที่ 0.77x
Action/ Implication
ราคาเป้าหมายตาม Consensus อยู่ที่ 4.95 บาท
จากข้อมูลตามBloomberg consensus มีนักวิเคราะห์เก้ารายที่แนะนำซื้อ AWC โดยราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น P/E ปี FY24F ที่ 45x แพงกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม อย่าง CENTEL (29x), ERW (27x) และ MINT (20x)
