วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PPI สหรัฐสูงกว่าคาด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PPI สหรัฐสูงกว่าคาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาด บวกสูงสุดราว +10 จุด แต่มีแรงขายในเวลาต่อมา นำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA -5% หลังจากรายงานผลการดำเนินงาน HANA -3% KCE -2% ส่วนแรงซื้อมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร ไอซีที เป็นต้น

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,386.27 จุด -1.00 จุด -0.07% มูลค่าการซื้อขาย 43,564 ลบ.Program Trading +876.85 ลบ. ต่างชาติ +833.59 ลบ. TFEX +2,717 สัญญา ตราสารหนี้ +2,652.65 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ +1.49% ปิดที่ 79.19 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้นราว 3% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางบดบังคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่คาดว่าอุปสงค์น้ำมันชะลอตัว
+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ใน 1Q67
+ ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินจำนวน 5 แสนล้านหยวน (ราว 7.039 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบธนาคาร โดยดำเนินการผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ที่อัตราดอกเบี้ย 2.5% เช้านี้ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ระดับ 2.50% ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเพื่อป้องกันความผันผวนของเงินหยวน
+ รมว.การท่องเที่ยวฯ เร่งหารือททท. 19 ก.พ.นี้ทำแผนดึงชาร์เตอร์ไฟลต์ 6 ตลาดหลักเข้าไทยเพิ่ม หวังกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 40 ล้านคนสร้างรายได้ 3.5 ล้านล้านบาท
+ ญี่ปุ่นเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเพิ่มขึ้น 2.7%MoM ในเดือนธ.ค. 2566 มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 2.5%

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 145.13 จุด หรือ -0.37% และดัชนี Nasdaq ร่วงลงมากที่สุดหลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงเกินคาดลดความหวังที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.1%
 

 

 

- สหรัฐ เปิดเผย ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตประจำเดือนม.ค.ระบุว่าดัชนี PPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.9%YoY ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% จากระดับ 1.0% ในเดือนธ.ค.
- นักวิเคราะห์คาดว่าอาวุธอวกาศที่สหรัฐเชื่อว่ารัสเซียกำลังพัฒนาคืออุปกรณ์ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการปิดกั้น รบกวน หรือทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในดาวเทียม
- แหล่งข่าวเปิดเผยว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีแนวโน้มลงมติหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซาในวันอังคารนี้ (20 ก.พ.) ขณะที่สหรัฐส่งสัญญาณว่าจะใช้สิทธิวีโต้ (veto)
- นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสกล่าวว่าอิสราเอลขัดขวางความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงกดดันจากสหรัฐรายงาน PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตสูงกว่าตลาดคาด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน ประเมินกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,380-1,390 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี : SPA PLANB PRM
• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• MSCI Global Standard : เข้า – ออก BANPU BJC OSP MSCI Global Small Cap : เข้า BANPU OSP GLOBAL SKY TISCO ออก : BEC SUPER ใช้ราคาปิด 29 ก.พ.
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาบิตคอยน์ที่ปรับตัวขึ้น : ZIGA BROOK TTA JTS
• FTSE Large Cap. : เข้า – ออก CPF HMPRO IVL SCGP FTSE Mid Cap. : เข้า CPF HMPRO IVL SCGP ออก - FTSE Small Cap. : เข้า – ออก KEX RABBIT RAM SAMART WORK ใช้ราคาปิด 15 มี.ค.

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

TACC "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 7.60 บาท Upside 65%
มุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรปกติ 4Q66 ต่อเนื่องไปยังปี 67

•คาดกำไรปกติ 4Q66 ราว 57 ลบ. +28%YoY +10%QoQ และคาดจะเป็นไตรมาสดีสุดของปี 66 จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ ควบคู่กับการออกสินค้าเมนูใหม่ๆ ตลอดจนการขยายสาขา 7-Eleven อีกราว 150 แห่ง อย่างไรก็ตาม ในงวด 4Q66 อาจมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการด้อยค่าเงินลงทุนใน TCI ที่เตรียมขายในช่วงปี 67 ทั้งนี้ 9M66 มีกำไร 148 ลบ. -22%YoY และคิดเป็น 72% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 66 ที่ราว 205 ลบ. -13%YoY

•คาดกำไรปี 67 ราว 233 ลบ. +14%YoY โดยมีปัจจัยการเติบโตหลักมาจากการขยายสาขาของ 7-Eleven ทั้งสาขาในประเทศราว 700 แห่งต่อปี และสาขาต่างประเทศทั้งในประเทศลาวและกัมพูชา ส่วนกลุ่ม Non 7-Eleven อาทิ กาแฟพันธุ์ไทย มีแผนขยายสาขา Aggressive สู่ 5,000 แห่งภายในปี 70 จาก สิ้นปี 66 ที่ราว 900 แห่ง (เฉลี่ยเปิดเพิ่มปีละ 1,000 แห่ง) นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากมาตรการ Easy E-Receipt ในช่วง 1 ม.ค.-15 ก.พ.67 ทั้งนี้ หากการขายเงินลงทุนใน TCI แล้วเสร็จจะทำให้บริษัทไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนปีละราว 10 ลบ.

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q66 แม้อาจมีค่าใช้จ่ายพิเศษแต่เป็นรายการที่ไม่กระทบต่อกระแสเงินสด ส่วนปี 67 ยังมีอัพไซต์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ Digital Wallet ขณะที่ Valuation ปัจจุบันค่อนข้างถูก ซื้อขายที่ PE 17x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ 20x ราคาเหมาะสม 7.60 บาท Upside 65% และจ่ายปันผลในอัตรา 7% ต่อปี จึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) CBG (Bloomberg consensus 92.05 บาท) กำไรไตรมาส 4/2566 กลับมาเด่นแตะ 649 ล้านบาท พุ่ง 59% ต้นทุนลดได้เหล้า-เบียร์ ช่วยดัน ส่วนเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง มาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 7 นิวไฮในรอบ 4 ปี ยันไม่ขึ้นราคาขาย 10 บาท เตรียมเปิดตัวเบียร์ IPA มีนาคมนี้ ส่วนปีนี้คาดยอดขายรวมเติบโตต่อเนื่อง ตลาดต่างประเทศโต 5-7% ปันผล 0.50 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTTGC (Bloomberg consensus 39.50 บาท) ตั้งเป้าขายปีนี้โต 7-10% ปิดซ่อมบำรุงลดลง มอง PE ดีกว่าปีก่อน คาดครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจดีขึ้น ชู Allnex มาแรงเติบโต 10% ดีมานด์ ยานยนต์ต้องการสารเคลือบ เร่งเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง วางงบลงทุนปีนี้ 100-150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MAJOR (Bloomberg consensus 18.50 บาท) ปรับกลยุทธ์ดันรายได้โตทุกไตรมาส ย้ำปีนี้ภาพยนตร์ไทยแข็งแกร่งกว่าภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ ทั้งยังเพิ่มจำนวนหนังทางเลือก เช่น อนิเมะ ญี่ปุ่น ภาพยนตร์จีน - เกาหลี เป็นต้น ขณะเดียวกันรายได้ธุรกิจโฆษณาก็ฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่นกลับมามีสัดส่วนราว 25% ของรายได้รวมแล้ว เล็งดันป๊อปคอร์นเข้า Big-c โกยยอดขายเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AMA (Bloomberg consensus 6.40 บาท) ฉายภาพเดินเรือโดดเด่น หลังติดอันดับขนส่งน้ำมันปาล์มในเอเชีย ลุ้นเพิ่มกองเรือดันน้ำหนักบรรทุกแตะแสนตัน เชื่อปริมาณขนส่งวิ่งชน 1.55 ล้านตันจากปีก่อน 1.4 ล้านตัน ฟากบอสใหญ่ "พิศาล รัชกิจประการ" ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 15% จากปี 2566 จับตาขนส่งรถบรรทุกติดเครื่องวิ่งต่อ (ที่มา ทันหุ้น)